ปลาทูแช่ตู้เย็นกี่วีน

ปลาทูแช่ตู้เย็นกี่วัน? ไขความลับการเก็บปลาทูให้สดอร่อย ไม่เสียรสชาติ

ปลาทูเป็นอาหารยอดนิยมของคนไทย ด้วยรสชาติอร่อย ราคาไม่แพง และอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ปัญหาที่หลายคนมักเจอคือการเก็บรักษาปลาทูให้สดใหม่ได้นาน โดยเฉพาะเมื่อแช่ตู้เย็น วันนี้เราจะมาไขความลับการเก็บปลาทูในตู้เย็นให้สดอร่อย ไม่เสียรสชาติ พร้อมเคล็ดลับพิเศษที่คุณอาจไม่เคยรู้!

ปลาทูแช่ตู้เย็นช่องธรรมดา: 1-2 วัน เท่านั้น!

หลายคนอาจจะคิดว่าการนำปลาทูที่ซื้อมาแช่ตู้เย็นช่องธรรมดาจะสามารถเก็บไว้ได้นาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ปลาทูที่แช่ตู้เย็นช่องธรรมดาควรบริโภคภายใน 1-2 วันเท่านั้น หลังจากนั้น เนื้อปลาจะเริ่มเสียความสด กลิ่นคาวจะแรงขึ้น และรสชาติจะเปลี่ยนไป การปล่อยทิ้งไว้นานกว่านั้นอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้

ทำไมปลาทูถึงเสียเร็วจัง?

ปลาทูเป็นปลาทะเลที่มีไขมันสูง ทำให้เกิดการเหม็นหืนได้ง่ายเมื่อสัมผัสกับอากาศ นอกจากนี้ เนื้อปลาทูยังมีเอนไซม์ที่ทำให้เนื้อปลาอ่อนตัวลงอย่างรวดเร็ว การเก็บรักษาที่ไม่ถูกวิธีจึงเร่งกระบวนการเน่าเสียของปลาทูให้เร็วยิ่งขึ้น

เคล็ดลับเก็บปลาทูให้สดนานในตู้เย็น

• ทำความสะอาด: ล้างปลาทูด้วยน้ำสะอาด ซับให้แห้งด้วยกระดาษทิชชูสำหรับทำอาหาร
• ห่ออย่างมิดชิด: ห่อปลาทูแต่ละตัวด้วยกระดาษซับน้ำมันหรือแรปพลาสติกอย่างมิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้ปลาสัมผัสกับอากาศโดยตรง
• ใส่กล่องปิดสนิท: นำปลาทูที่ห่อแล้วใส่กล่องพลาสติกที่มีฝาปิดสนิท เพื่อป้องกันกลิ่นคาวของปลาทูไปรบกวนอาหารอื่นๆ ในตู้เย็น
• วางในช่องแช่เย็นที่เย็นที่สุด: วางกล่องปลาทูในช่องแช่เย็นที่เย็นที่สุดของตู้เย็น ซึ่งมักจะเป็นชั้นล่างสุดที่อยู่ใกล้กับช่องแช่แข็ง
• อย่าแช่ปลาทูที่ปรุงสุกแล้ว: หากเป็นปลาทูที่ปรุงสุกแล้ว ควรบริโภคให้หมดภายในวันนั้น หรือเก็บไว้ในตู้เย็นได้ไม่เกิน 1 วัน

ถ้าอยากเก็บปลาทูนานกว่านั้น? แช่แข็งเลย!

หากคุณต้องการเก็บปลาทูไว้นานกว่า 2 วัน การแช่แข็งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด วิธีการคือ ล้างปลาทูให้สะอาด ซับให้แห้ง ห่อด้วยแรปพลาสติกหลายชั้น หรือใส่ในถุงซิปล็อค ไล่อากาศออกให้หมด แล้วนำไปแช่แข็ง สามารถเก็บไว้ได้นานถึง 1-2 เดือน เมื่อต้องการนำมาปรุงอาหาร ให้นำปลาทูออกจากช่องแช่แข็งมาวางในช่องแช่เย็นธรรมดาล่วงหน้า 1 คืน เพื่อให้ปลาค่อยๆ ละลายอย่างช้าๆ

ข้อสังเกต: ปลาทูเสียแล้วหรือยัง?

• กลิ่น: มีกลิ่นคาวรุนแรง ผิดปกติ
• สี: เนื้อปลาเริ่มคล้ำ ไม่สดใส
• เนื้อสัมผัส: เนื้อปลาอ่อนเละ ไม่แน่น
• ตา: ตาปลาขุ่น ไม่ใส

หากพบว่าปลาทูมีลักษณะดังกล่าวข้างต้น แสดงว่าปลาทูเสียแล้ว ไม่ควรนำมารับประทาน

สรุป:

การเก็บปลาทูให้สดอร่อยไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ทำตามเคล็ดลับที่เราแนะนำ คุณก็จะสามารถเพลิดเพลินกับปลาทูรสชาติเยี่ยมได้อย่างเต็มที่ อย่าลืม! ปลาทูแช่ตู้เย็นช่องธรรมดาควรทานภายใน 1-2 วัน หากต้องการเก็บนานกว่านั้น แช่แข็งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพียงเท่านี้คุณก็ไม่ต้องกังวลเรื่องปลาทูเสียก่อนเวลาอันควรอีกต่อไป