ปลาทูหอมต้องล้างก่อนทอดหรือไม่

เคล็ดลับ (ไม่) ลับ: ทำไมต้องล้าง “ปลาทูหอม” ก่อนลงกระทะ?

หลายคนอาจสงสัยว่า “ปลาทูหอม” ที่เราซื้อมานั้น จำเป็นต้องล้างก่อนทอดหรือไม่? เพราะโดยทั่วไปแล้ว ปลาทูหอมที่เราซื้อ มักจะผ่านกระบวนการแปรรูปมาในระดับหนึ่งแล้ว บ้างก็ตากแห้ง บ้างก็รมควัน จนมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์

บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจ และเจาะลึกถึงเหตุผลว่า ทำไมการล้างปลาทูหอมก่อนทอด จึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ได้ปลาทูทอดที่อร่อยยิ่งขึ้น

เหตุผลที่ควรล้างปลาทูหอมก่อนทอด:

• ชำระสิ่งสกปรก: ถึงแม้ปลาทูหอมจะผ่านกระบวนการแปรรูปมาแล้ว แต่ระหว่างการขนส่งและการจัดเก็บ อาจมีฝุ่นละออง หรือสิ่งสกปรกอื่นๆ เกาะติดอยู่ การล้างน้ำสะอาดจะช่วยชำระสิ่งสกปรกเหล่านี้ออกไป เพื่อสุขอนามัยที่ดี
• ลดความเค็ม: ปลาทูหอมส่วนใหญ่มักจะมีความเค็มในตัว การล้างน้ำสะอาดจะช่วยลดปริมาณเกลือที่เกาะอยู่บนตัวปลา ทำให้รสชาติของปลาทูทอดไม่เค็มจนเกินไป และสามารถปรุงรสเพิ่มเติมได้ตามชอบ
• ป้องกันน้ำมันกระเด็น: พื้นผิวของปลาทูหอมที่ไม่ได้ล้าง อาจมีความชื้นหรือน้ำมันที่ตกค้างอยู่ เมื่อนำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ น้ำมันอาจจะกระเด็นได้ การล้างและซับปลาทูให้แห้งก่อนทอด จะช่วยลดปัญหานี้ได้
• ช่วยให้ปลาทูสุกทั่วถึง: การล้างปลาทูหอมแล้วซับให้แห้ง จะช่วยให้ความร้อนจากน้ำมันสามารถแทรกซึมเข้าไปในเนื้อปลาได้อย่างทั่วถึง ทำให้ปลาทูสุกกรอบนอกนุ่มใน และมีสีสันสวยงามน่ารับประทาน

ขั้นตอนการล้างปลาทูหอมอย่างถูกวิธี:

1. ล้างน้ำสะอาด: ล้างปลาทูหอมด้วยน้ำสะอาด 1-2 ครั้ง โดยไม่ต้องขัดถูแรงๆ เพื่อไม่ให้เนื้อปลาเละ
2. ซับน้ำให้แห้ง: ใช้ผ้าสะอาด หรือกระดาษซับน้ำมัน ซับน้ำออกจากตัวปลาให้แห้งสนิท
3. พักไว้: พักปลาทูหอมที่ซับแห้งแล้วไว้ประมาณ 5-10 นาที ก่อนนำไปทอด

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

• หากต้องการลดกลิ่นคาวของปลาทูหอม สามารถเติมน้ำส้มสายชูเล็กน้อยลงในน้ำที่ใช้ล้าง
• ก่อนนำปลาทูลงทอด ควรตั้งน้ำมันให้ร้อนจัด จะช่วยให้ปลาทูกรอบอร่อยยิ่งขึ้น

สรุป:

การล้างปลาทูหอมก่อนทอด ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยเรื่องความสะอาดและสุขอนามัยแล้ว ยังช่วยให้ได้ปลาทูทอดที่อร่อย กรอบนอกนุ่มใน และน่ารับประทานยิ่งขึ้น ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ รับรองว่าปลาทูหอมทอดของคุณจะอร่อยจนใครๆ ก็ต้องติดใจอย่างแน่นอน!