ปลาทูแบบไหนไม่เค็ม

8 การดู
ปลาทูสดใหม่ เนื้อแน่น ตาใส เหงือกแดง จะมีความเค็มน้อยกว่าปลาทูที่ผ่านการแช่แข็งหรือตากแห้งนานๆ หากต้องการปลาทูไม่เค็ม ควรเลือกปลาทูที่จับมาใหม่ๆ จากแหล่งทะเลโดยตรง หรือปลาทูที่ระบุว่า สด และตรวจสอบลักษณะภายนอกตามที่กล่าวมา
ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ปลาทู…เมนูอาหารไทยที่คุ้นเคยและหาทานได้ง่าย ไม่ว่าจะนำไปทอด นึ่ง ย่าง หรือทำเป็นน้ำปลาหวาน แต่หลายคนอาจเคยเจอปัญหาปลาทูเค็มเกินไปจนเสียรสชาติ ความเค็มนั้นไม่ได้มาจากการปรุงรสเสมอไป แต่เกิดจากกระบวนการเก็บรักษาและความสดของตัวปลาทูเอง วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจและเรียนรู้วิธีเลือกซื้อปลาทูที่ไม่เค็ม เพื่อให้ได้รสชาติอร่อยถูกใจทุกมื้อ

ความเค็มในปลาทูไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เป็นผลมาจากกระบวนการถนอมอาหาร ปลาทูที่ผ่านการแช่แข็งหรือตากแห้งนานๆ จะมีความเค็มสะสมเพิ่มขึ้น เนื่องจากเกลือแร่และสารประกอบอื่นๆ ภายในตัวปลาจะถูกเข้มข้นมากขึ้นเมื่อน้ำในเนื้อปลาถูกระเหยออกไป ยิ่งปลาทูถูกเก็บไว้นานเท่าไหร่ ความเค็มก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นตามไปด้วย จึงทำให้รสชาติเปลี่ยนไป บางครั้งถึงกับเค็มจัดจนรับประทานไม่ได้

ดังนั้น กุญแจสำคัญในการเลือกปลาทูไม่เค็มอยู่ที่การเลือกปลาทูสดใหม่ ปลาทูที่จับมาจากแหล่งทะเลโดยตรง และยังคงความสดใหม่ จะมีความเค็มน้อยที่สุด สังเกตได้จากลักษณะภายนอก ปลาทูสดใหม่จะมีเนื้อแน่น ไม่เละหรือยุ่ย ตาจะใส ไม่ขุ่นหรือยุบ และเหงือกจะมีสีแดงสด ไม่ซีดหรือดำคล้ำ นี่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความสดใหม่และคุณภาพของปลาทูได้เป็นอย่างดี

การเลือกซื้อปลาทูจากแหล่งที่เชื่อถือได้ก็เป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกซื้อจากตลาดสดที่มีการหมุนเวียนสินค้า หรือร้านค้าที่รับประกันความสดใหม่ของปลาทู การเลือกซื้อปลาทูที่บรรจุในภาชนะที่สะอาดและปิดสนิท ก็ช่วยป้องกันการปนเปื้อนและรักษาความสดใหม่ได้ หากเลือกซื้อปลาทูแช่แข็ง ควรตรวจสอบวันหมดอายุ และเลือกปลาทูที่แช่แข็งอย่างถูกวิธี เพื่อให้ได้คุณภาพที่ดีที่สุด และความเค็มที่น้อยที่สุด

นอกจากนี้ การสังเกตกลิ่นก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เราเลือกซื้อปลาทูสดใหม่ได้ ปลาทูสดจะมีกลิ่นคาวอ่อนๆ แต่ไม่เหม็นหรือมีกลิ่นผิดปกติ หากพบว่าปลาทูมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวหรือเน่าเสีย ควรหลีกเลี่ยงการซื้อ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้

สุดท้ายนี้ การเลือกซื้อปลาทูไม่ใช่เรื่องยาก หากเราใส่ใจเลือกดูและสังเกต ตั้งแต่การเลือกซื้อปลาทูสดใหม่ ดูลักษณะภายนอก และเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ สิ่งสำคัญคือต้องอย่าลืมตรวจสอบวันหมดอายุ และวิธีการเก็บรักษา เพื่อให้ได้ปลาทูที่สดใหม่ เนื้อแน่น และมีความเค็มน้อยที่สุด รับประทานได้อย่างอร่อยและปลอดภัย เพื่อให้การลิ้มลองเมนูเด็ดจากปลาทูเป็นประสบการณ์ที่ดี และช่วยให้เราได้ทานปลาทูคุณภาพดี เต็มอิ่มกับรสชาติที่อร่อยถูกใจ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเค็มอีกต่อไป