มะม่วงหิมพานต์ ตระกูลอะไร

2 การดู

มะม่วงหิมพานต์จัดอยู่ในสกุล Anacardium วงศ์ Anacardiaceae เป็นพืชเขตร้อนถิ่นกำเนิดอเมริกา เมล็ดที่เรารับประทานคือเมล็ดจริง ส่วนผลที่อยู่ด้านล่าง เป็นผลเทียมที่พัฒนาจากฐานดอก มีรสเปรี้ยวอมหวาน นิยมนำมาแปรรูปเป็นน้ำผลไม้หรือของหวานต่างๆ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

มะม่วงหิมพานต์: เรื่องราวเบื้องหลังเมล็ดอร่อยจากตระกูล Anacardiaceae

มะม่วงหิมพานต์ ของว่างแสนอร่อยที่หลายคนคุ้นเคย มักปรากฏในรูปเมล็ดสีขาวนวลกรุบกรอบ แต่เคยสงสัยกันไหมว่าเจ้ามะม่วงหิมพานต์นี้ จริงๆ แล้วจัดอยู่ในตระกูลพืชอะไร? คำตอบคือ มะม่วงหิมพานต์อยู่ในสกุล Anacardium วงศ์ Anacardiaceae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับมะม่วง ลำไย ลิ้นจี่ และกะทิ แต่ความน่าสนใจของมะม่วงหิมพานต์นั้นไม่ได้อยู่แค่ที่การจัดจำแนกทางพฤกษศาสตร์ แต่ยังซ่อนอยู่เบื้องหลังโครงสร้างอันแปลกประหลาดของผลผลิตอีกด้วย

เราคุ้นเคยกับการรับประทาน “เมล็ด” มะม่วงหิมพานต์ แต่ที่จริงแล้ว ส่วนที่เราบริโภคคือ เมล็ดจริง ของพืชชนิดนี้ ส่วนที่เราเรียกว่า “ผล” ซึ่งมีลักษณะเป็นรูปไต รสชาติเปรี้ยวอมหวานนั้น คือ ผลเทียม (accessory fruit) ที่เกิดจากการพัฒนาของฐานรองดอก (hypanthium) นั่นเอง นับเป็นกลไกการกระจายพันธุ์ที่แยบยลของธรรมชาติ ผลเทียมสีสดใสดึงดูดสัตว์ต่างๆ ให้มาช่วยในการกระจายเมล็ด ขณะที่เมล็ดด้านในก็มีคุณค่าทางอาหารสูง เหมาะแก่การเป็นแหล่งพลังงานสำหรับการเจริญเติบโตของต้นกล้าในอนาคต

ความเป็นพืชเขตร้อน ทำให้มะม่วงหิมพานต์เติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงและความชื้นเพียงพอ ถิ่นกำเนิดดั้งเดิมของมันอยู่ในภูมิภาคอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ก่อนที่จะแพร่กระจายไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยของเรา ซึ่งเป็นแหล่งปลูกมะม่วงหิมพานต์ที่สำคัญ และเป็นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมการเกษตรของประเทศ นอกจากการบริโภคสดแล้ว มะม่วงหิมพานต์ยังถูกนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันมะม่วงหิมพานต์ เนยถั่วมะม่วงหิมพานต์ หรือแม้แต่ขนมขบเคี้ยวต่างๆ สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าทางเศรษฐกิจและความสำคัญของพืชชนิดนี้

ในที่สุด มะม่วงหิมพานต์จึงไม่ใช่แค่เพียงของว่างแสนอร่อย แต่ยังเป็นพืชที่มีความน่าสนใจทางชีววิทยาและเศรษฐศาสตร์ การเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับต้นกำเนิด ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ และประโยชน์ต่างๆ ของมะม่วงหิมพานต์ จะช่วยให้เราเข้าใจและชื่นชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงเห็นคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติที่อยู่รอบตัวเรา และสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมเกษตรกรรมต่อไป