หมวดอาหารภาษาจีนมีอะไรบ้าง

3 การดู

ภาษาจีนแบ่งประเภทอาหารตามเวลาทาน นอกจากมื้อหลักสามมื้อแล้ว ยังมีของว่างยามบ่าย 下午茶 (xiàwǔ chá) เซี่ยอู่ฉา และอาหารว่างจุบจิบ 零食 (língshí) หลิงสือ ซึ่งหลากหลายและขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล สะท้อนวัฒนธรรมการกินที่แตกต่างกันไปตามภูมิภาคอีกด้วย

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

หมวดอาหารจีน: มากกว่าแค่เช้า กลางวัน เย็น

คนไทยคุ้นเคยกับการแบ่งอาหารเป็นมื้อหลักสามมื้อ คือ เช้า กลางวัน เย็น แต่สำหรับอาหารจีนแล้ว การแบ่งประเภทมีความซับซ้อนและน่าสนใจกว่านั้น นอกจากมื้อหลักสามมื้อที่เรียกว่า 早餐 (zǎocān) หรืออาหารเช้า, 午餐 (wǔcān) อาหารกลางวัน และ 晚餐 (wǎncān) อาหารเย็น ยังมีการแบ่งหมวดหมู่อาหารตามลักษณะและวาระการกินอีกหลากหลาย สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมการกินที่หลากหลายและละเอียดอ่อนของชาวจีน

เริ่มจากการแบ่งตามภูมิภาค ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของอาหารจีน โดยทั่วไปแล้วอาหารจีนแบ่งออกเป็น 8 สำนักใหญ่ ได้แก่ เสฉวน, กวางตุ้ง, เจียงซู, เจ้อเจียง, ฝูเจี้ยน, อานฮุย, หูหนาน และ ซานตง แต่ละสำนักมีรสชาติและวัตถุดิบที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น เสฉวนขึ้นชื่อเรื่องรสชาติเผ็ดร้อน กวางตุ้งเน้นความสดใหม่และรสชาติกลมกล่อม ส่วนซานตงโดดเด่นด้วยอาหารทะเล

นอกจากนี้ ยังมีการแบ่งประเภทอาหารตามวิธีการปรุง เช่น 炒 (chǎo) ผัด, 蒸 (zhēng) นึ่ง, 煮 (zhǔ) ต้ม, 炸 (zhá) ทอด, 烤 (kǎo) ย่าง และอื่นๆ ซึ่งวิธีการปรุงที่แตกต่างกันก็จะให้รสชาติและสัมผัสที่หลากหลายออกไป

ที่น่าสนใจคือ อาหารจีนยังให้ความสำคัญกับ “ของว่าง” ซึ่งไม่ใช่แค่อาหารรอง แต่เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการกินอย่างแท้จริง โดยแบ่งออกได้เป็น 下午茶 (xiàwǔ chá) เซี่ยอู่ฉา หรือ ชายามบ่าย ซึ่งมักประกอบด้วยชา ขนมหวาน และของว่างเบาๆ คล้ายกับ Afternoon Tea ของชาวตะวันตก แต่ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของจีน เช่น ติ่มซำ ขนมไหว้พระจันทร์ ฯลฯ และ 零食 (língshí) หลิงสือ หรือของว่างจุบจิบ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ของกินเล่นทั่วไป ผลไม้ ถั่ว ไปจนถึงอาหารว่างที่ปรุงสุก เช่น บัวลอยน้ำขิง เกี๊ยวซ่า ฯลฯ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายและความคิดสร้างสรรค์ในวัฒนธรรมอาหารจีน

การแบ่งหมวดหมู่อาหารจีนจึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่การแบ่งตามมื้ออาหาร แต่ยังครอบคลุมถึงภูมิภาค วิธีการปรุง และวาระในการกิน สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมการกินที่ซับซ้อน ละเอียดอ่อน และเต็มไปด้วยสีสันของชาวจีน.