โพ ร เซ ส เชด ด้า ชีส ยืด ไหม

6 การดู

ชีสเชดดาร์แท้แบบอังกฤษดั้งเดิม นิยมใช้บ่มนานหลายเดือน ให้รสชาติเข้มข้น มีเนื้อสัมผัสแน่น ละลายได้บ้างเมื่อโดนความร้อน เหมาะสำหรับทำซอสเข้มข้นคลุกพาสต้า หรือขูดโรยหน้าสลัดผักเพิ่มความอร่อย

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ชีสเชดดาร์: มากกว่าแค่รสชาติเข้มข้น… ทำไมยืดได้น้อย?

ชีสเชดดาร์ (Cheddar Cheese) เป็นหนึ่งในชีสที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ด้วยรสชาติที่หลากหลาย ตั้งแต่รสอ่อนนุ่มไปจนถึงรสชาติเข้มข้นจัดจ้าน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการบ่ม ทำให้เชดดาร์กลายเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารมากมาย ตั้งแต่แซนวิชธรรมดาๆ ไปจนถึงเมนูหรูหราบนโต๊ะอาหาร

แต่เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมเวลาที่เรานำชีสเชดดาร์ไปทำอาหาร โดยเฉพาะเมนูที่ต้องการความยืดเยิ้มอย่างพิซซ่า หรือชีสโทส เรากลับไม่ค่อยได้เห็น “ชีสยืด” อย่างที่ใจต้องการเหมือนกับชีสชนิดอื่นๆ เช่น มอสซาเรลล่า (Mozzarella)

ทำไมเชดดาร์ถึงยืดได้น้อย?

คำตอบนั้นอยู่ที่โครงสร้างและกระบวนการผลิตของชีสเชดดาร์นั่นเอง

  • ปริมาณความชื้น: ชีสเชดดาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชดดาร์ที่บ่มนาน มักจะมีปริมาณความชื้นน้อยกว่าชีสประเภทอื่นๆ กระบวนการบ่มจะดึงความชื้นออกจากชีส ทำให้เนื้อสัมผัสแน่นขึ้นและรสชาติเข้มข้นขึ้น เมื่อความชื้นน้อย การละลายของชีสจึงไม่ราบรื่น และไม่สามารถสร้างเส้นใยยืดที่สวยงามได้

  • ปริมาณไขมัน: ปริมาณไขมันในชีสเชดดาร์ก็มีผลเช่นกัน แม้ว่าเชดดาร์จะมีไขมันอยู่พอสมควร แต่โครงสร้างของไขมันในเชดดาร์อาจไม่เอื้อต่อการยืดตัวเมื่อได้รับความร้อน ไขมันจะละลายออกมามากกว่าที่จะสร้างเป็นเส้นใยยืด

  • โครงสร้างโปรตีน: โปรตีนในชีสเชดดาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเคซีน (Casein) จะจับตัวกันแน่นระหว่างกระบวนการผลิตและการบ่ม ทำให้โครงสร้างของชีสมีความแข็งแรง เมื่อได้รับความร้อน โปรตีนเหล่านี้จะละลายได้ยาก และไม่สามารถยืดตัวได้อย่างอิสระเหมือนโปรตีนในชีสที่ยืดได้ดีกว่า

  • กระบวนการผลิต “Cheddaring”: กระบวนการที่เรียกว่า “Cheddaring” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของการผลิตชีสเชดดาร์นั้น เกี่ยวข้องกับการตัดและซ้อนแผ่นเคิร์ด (Curd) เพื่อระบายน้ำนมออก ซึ่งส่งผลให้ชีสมีความชื้นน้อยลงและมีเนื้อแน่นขึ้น

แล้วจะทำอย่างไรถ้าอยากให้เชดดาร์ “ยืด” ได้บ้าง?

แม้ว่าชีสเชดดาร์จะไม่สามารถยืดได้เหมือนมอสซาเรลล่า แต่ก็มีเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้เชดดาร์ละลายได้ดีขึ้น และอาจจะพอได้เห็นความยืดบ้างเล็กน้อย:

  • ขูดชีสให้ละเอียด: การขูดชีสเป็นเส้นเล็กๆ จะช่วยให้ชีสละลายได้ง่ายและสม่ำเสมอมากขึ้น
  • ผสมกับชีสชนิดอื่น: การผสมเชดดาร์กับชีสที่ยืดได้ดีกว่า เช่น มอสซาเรลล่า จะช่วยเพิ่มความยืดให้กับเมนูของคุณได้
  • ใช้เชดดาร์อ่อน: เชดดาร์ที่บ่มน้อยจะมีปริมาณความชื้นมากกว่า ทำให้ละลายได้ง่ายกว่าเชดดาร์ที่บ่มนาน
  • ใส่ส่วนผสมที่มีไขมัน: การเติมส่วนผสมที่มีไขมัน เช่น เนย หรือครีม ลงไปในเมนูที่ใช้เชดดาร์ จะช่วยให้ชีสละลายได้ดีขึ้น

สรุป:

ถึงแม้ว่าชีสเชดดาร์อาจจะไม่ใช่ชีสที่ขึ้นชื่อเรื่องความยืด แต่ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และเนื้อสัมผัสที่น่าสนใจ ทำให้เชดดาร์ยังคงเป็นชีสที่ขาดไม่ได้ในหลากหลายเมนู การเข้าใจคุณสมบัติของเชดดาร์ จะช่วยให้คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำอาหารได้อย่างสร้างสรรค์ และได้รสชาติที่ถูกใจอย่างแน่นอน