กล้ามเนื้อรัดตัวเกิดจากอะไร

2 การดู

ภาวะกล้ามเนื้อรัดตัวเกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อหดเกร็งอย่างต่อเนื่อง โดยทั่วไปมักเกิดจากการใช้งานกล้ามเนื้อมากเกินไปหรือการได้รับบาดเจ็บ ซึ่งนำไปสู่การหดตัวของเส้นใยกล้ามเนื้อและทำให้รู้สึกปวดและตึง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

กล้ามเนื้อรัดตัว: เมื่อกล้ามเนื้อ “ล็อค” ตัวเอง

เรามักคุ้นเคยกับอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกายหนัก หรือหลังจากนั่งทำงานในท่าเดิมเป็นเวลานาน อาการเหล่านี้บ่อยครั้งเป็นสัญญาณของภาวะกล้ามเนื้อรัดตัว ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อเกิดการหดเกร็งอย่างต่อเนื่องและไม่สามารถคลายตัวได้ตามปกติ เปรียบเสมือนกลไกของกล้ามเนื้อ “ล็อค” ตัวเองเอาไว้ ส่งผลให้เกิดความเจ็บปวด ตึง และเคลื่อนไหวได้ลำบาก

แม้ว่าการใช้งานกล้ามเนื้อมากเกินไปหรือการบาดเจ็บจะเป็นสาเหตุหลักที่เรามักนึกถึง แต่ความจริงแล้วภาวะกล้ามเนื้อรัดตัวนั้นซับซ้อนกว่านั้น และมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจเป็นตัวกระตุ้นได้อีก เช่น:

  • ภาวะขาดน้ำ: การขาดน้ำทำให้สมดุลของอิเล็กโทรไลต์ในร่างกายเสียไป ซึ่งอิเล็กโทรไลต์เหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการหดตัวและคลายตัวของกล้ามเนื้อ เมื่อร่างกายขาดน้ำ กล้ามเนื้อจึงมีแนวโน้มที่จะหดเกร็งและเกิดภาวะกล้ามเนื้อรัดตัวได้ง่ายขึ้น

  • ความเครียด: ความเครียดทางจิตใจส่งผลต่อร่างกายในหลายด้าน รวมถึงการเพิ่มความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ ฮอร์โมนความเครียดอย่างเช่น คอร์ติซอล สามารถกระตุ้นให้กล้ามเนื้อหดเกร็งได้

  • การขาดสารอาหารบางชนิด: เช่น แมกนีเซียม โพแทสเซียม และแคลเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญที่จำเป็นต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ หากร่างกายได้รับสารอาหารเหล่านี้ไม่เพียงเพียง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกล้ามเนื้อรัดตัวได้

  • ท่าทางที่ไม่ถูกต้อง: การนั่ง ยืน หรือนอนในท่าที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน เช่น การนั่งหลังค่อม ทำให้กล้ามเนื้อบางส่วนต้องทำงานหนักเกินไปเพื่อพยุงร่างกาย และนำไปสู่ภาวะกล้ามเนื้อรัดตัวได้ในที่สุด

  • ภาวะทางการแพทย์บางอย่าง: เช่น โรคกล้ามเนื้ออักเสบ โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง และภาวะไทรอยด์ต่ำ ก็อาจเป็นสาเหตุของภาวะกล้ามเนื้อรัดตัวได้เช่นกัน

ดังนั้น การดูแลสุขภาพร่างกายอย่างเหมาะสม เช่น การดื่มน้ำให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ จัดท่านั่งทำงานให้ถูกต้อง และจัดเวลาผ่อนคลายความเครียด เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันภาวะกล้ามเนื้อรัดตัว หากอาการปวดรุนแรงหรือเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้องต่อไป