เกษตรกรรม เสี่ยงเป็นโรคอะไร

3 การดู

เกษตรกรเสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินหายใจจากฝุ่นละออง เช่น โรคปอดอักเสบ ภาวะหายใจลำบาก นอกจากนี้ สภาพอากาศแปรปรวนอย่างฝนตกหนัก น้ำท่วม ยังนำมาซึ่งโรคไข้หวัด มาเลเรีย และโรคผิวหนังอักเสบ รวมถึงภัยจากสัตว์มีพิษอย่างงูและแมลงต่อยก็เป็นสิ่งที่ต้องระวังเพื่อความปลอดภัยในการทำงาน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เกษตรกรรม: ภารกิจเลี้ยงโลกที่มาพร้อมความเสี่ยงด้านสุขภาพ

เกษตรกรรมเป็นรากฐานสำคัญของการดำรงชีวิตของมนุษย์ เป็นแหล่งผลิตอาหารที่หล่อเลี้ยงประชากรโลก แต่เบื้องหลังผลผลิตอันอุดมสมบูรณ์นั้น กลับแฝงไปด้วยความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เกษตรกรต้องเผชิญอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน นอกเหนือจากความเหนื่อยยากในการทำงานแล้ว โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ยังคอยคุกคามสุขภาพและความเป็นอยู่ของเกษตรกรอย่างเงียบๆ

ความเสี่ยงด้านสุขภาพในภาคเกษตรกรรมนั้นมีความหลากหลายและซับซ้อน โดยสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทดังนี้:

1. โรคระบบทางเดินหายใจ: เงาที่มองไม่เห็นในไร่นา

ฝุ่นละอองจากการไถพรวนดิน การใช้สารเคมีทางการเกษตร รวมถึงเชื้อราและแบคทีเรียที่ปะปนอยู่ในอากาศ ล้วนเป็นภัยคุกคามต่อระบบทางเดินหายใจของเกษตรกร การสัมผัสกับสารเหล่านี้เป็นเวลานานอาจนำไปสู่โรคต่างๆ เช่น

  • โรคปอดอักเสบ: การติดเชื้อในปอดที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา ทำให้เกิดอาการไอ หายใจลำบาก และมีไข้สูง
  • ภาวะหายใจลำบาก: การได้รับสารเคมีหรือฝุ่นละอองในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ ทำให้หายใจลำบากและแน่นหน้าอก
  • โรคปอดจากฝุ่นละออง: การสูดดมฝุ่นละอองเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นในปอด นำไปสู่การอักเสบเรื้อรังและภาวะปอดแข็ง
  • โรคหอบหืดและภูมิแพ้: สารเคมีและฝุ่นละอองบางชนิดอาจกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้และหอบหืดในผู้ที่มีความเสี่ยง

2. โรคติดต่อ: ผลพวงจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย

สภาพอากาศแปรปรวน เช่น ฝนตกหนัก น้ำท่วมขัง หรืออากาศร้อนจัด เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดต่อต่างๆ เช่น

  • ไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่: สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยทำให้ร่างกายอ่อนแอและง่ายต่อการติดเชื้อไวรัส
  • โรคมาลาเรีย: ยุงลายซึ่งเป็นพาหะนำโรคมาลาเรียมักแพร่พันธุ์ได้ดีในช่วงฤดูฝน
  • โรคฉี่หนู: เชื้อโรคฉี่หนูสามารถปนเปื้อนอยู่ในน้ำและดิน ทำให้เกษตรกรที่สัมผัสกับน้ำหรือดินที่ปนเปื้อนมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ
  • โรคผิวหนังอักเสบ: ความชื้นและเหงื่อทำให้ผิวหนังอับชื้นและง่ายต่อการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา

3. ภัยจากสัตว์มีพิษ: อันตรายที่คาดไม่ถึง

การทำงานในไร่นาหรือสวนมักทำให้เกษตรกรต้องเผชิญกับสัตว์มีพิษต่างๆ เช่น งู แมลงป่อง ตะขาบ หรือแมลงที่มีพิษ การถูกสัตว์เหล่านี้กัดหรือต่อยอาจทำให้เกิดอาการแพ้ บวม ปวด หรือเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

4. โรคจากการทำงาน: ความทรมานที่เกิดจากความเหนื่อยล้า

การทำงานในภาคเกษตรกรรมมักต้องใช้แรงงานหนักและทำซ้ำๆ เป็นเวลานาน ทำให้เกิดโรคจากการทำงาน เช่น

  • โรคปวดหลังและปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ: การยกของหนัก การก้มๆ เงยๆ และการอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดอาการปวดหลังและปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
  • โรคข้ออักเสบ: การใช้ข้อต่อซ้ำๆ อาจทำให้เกิดการอักเสบและเสื่อมสภาพของข้อต่อ
  • กลุ่มอาการเส้นประสาทกดทับ: การทำงานที่ต้องใช้ข้อมือซ้ำๆ อาจทำให้เส้นประสาทบริเวณข้อมือถูกกดทับ ทำให้เกิดอาการชา เจ็บ และอ่อนแรง

การป้องกันและความตระหนักรู้: กุญแจสู่สุขภาพที่ดีของเกษตรกร

เพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรกรรม เกษตรกรควรให้ความสำคัญกับการป้องกันและการดูแลสุขภาพดังนี้:

  • สวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล: สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละออง ถุงมือ รองเท้าบูท และเสื้อผ้าที่ปกคลุมมิดชิดเมื่อทำงานในไร่นาหรือสวน
  • รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล: ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำหลังจากสัมผัสกับดิน สารเคมี หรือสัตว์
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีโดยตรง: อ่านฉลากและปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้สารเคมีอย่างเคร่งครัด
  • พักผ่อนให้เพียงพอ: นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อฟื้นฟูร่างกาย
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและข้อต่อ
  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำ: ตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อตรวจหาโรคและรับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ
  • เรียนรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงด้านสุขภาพ: ทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับงานเกษตรกรรมและวิธีการป้องกัน

การตระหนักถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพและการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้เกษตรกรสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดี เพื่อที่จะสามารถผลิตอาหารเลี้ยงโลกได้อย่างยั่งยืนต่อไป