ควรกินกาแฟไม่เกินกี่โมง

0 การดู

บ่ายนี้ง่วงซึม คิดงานไม่ออกใช่ไหม? กาแฟช่วยได้ แต่ระวังนอนไม่หลับ! ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ จิบกาแฟแก้วสุดท้ายก่อนบ่ายสองถึงสี่โมงเย็น เพื่อให้คาเฟอีนหมดฤทธิ์ทันเวลานอน คืนนี้จะได้หลับสบาย พรุ่งนี้สดใสพร้อมลุยงาน!

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

จิบกาแฟอย่างไร ไม่ให้คืนนี้ตาค้าง

บ่ายแก่ๆ อากาศร้อนๆ หนังท้องตึงหนังตาหย่อน ความง่วงเริ่มเข้าครอบงำ งานก็ยังกองพะเนินอยู่ตรงหน้า หลายคนคงนึกถึง “กาแฟ” เครื่องดื่มมหัศจรรย์ที่ช่วยปลุกความสดชื่นและเรียกสติกลับคืนมาได้อย่างรวดเร็ว แต่รู้หรือไม่ว่าการดื่มกาแฟในเวลาที่ไม่เหมาะสม อาจส่งผลให้เรานอนไม่หลับ รบกวนการพักผ่อน และทำให้วันรุ่งขึ้นอ่อนเพลียกว่าเดิมได้

คำถามสำคัญคือ เราควรกินกาแฟไม่เกินกี่โมง? ไม่มีคำตอบตายตัวที่ใช้ได้กับทุกคน เพราะความไวต่อคาเฟอีนของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกัน ปัจจัยอื่นๆ เช่น อายุ น้ำหนัก สุขภาพโดยรวม และปริมาณกาแฟที่ดื่ม ล้วนมีผลต่อการดูดซึมและการกำจัดคาเฟอีนออกจากร่างกาย

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำว่า ควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟหลังบ่ายสองถึงสี่โมงเย็น เหตุผลก็คือ คาเฟอีนมีระยะเวลาออกฤทธิ์ประมาณ 5-6 ชั่วโมง ดังนั้น หากเราดื่มกาแฟตอนบ่ายสาม คาเฟอีนก็จะยังคงอยู่ในร่างกายของเราไปจนถึงช่วงหัวค่ำ ซึ่งอาจส่งผลต่อการนอนหลับได้

ลองนึกภาพดูว่า เรากำลังเคลิ้มจะหลับ แต่ร่างกายกลับรู้สึกตื่นตัว พลิกไปพลิกมา นอนไม่หลับ เช้าวันรุ่งขึ้น เราจะรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ไม่มีสมาธิทำงาน ส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการทำงานและสุขภาพในระยะยาว

นอกจากเวลาแล้ว ปริมาณกาแฟที่ดื่มก็สำคัญไม่แพ้กัน การดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะ เช่น ไม่เกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน (ประมาณ 4 ถ้วย) จะช่วยลดความเสี่ยงของการนอนไม่หลับได้

หากเรารู้สึกง่วงในช่วงบ่าย ลองหาวิธีอื่นๆ ในการเพิ่มความสดชื่น เช่น ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ ลุกขึ้นเดินยืดเส้นยืดสาย หรือหาของว่างที่มีประโยชน์ทาน การงีบหลับสั้นๆ ประมาณ 15-20 นาที ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ช่วยให้ร่างกายและสมองได้พักผ่อน พร้อมกลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

สุดท้ายนี้ การฟังเสียงร่างกายของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด สังเกตว่าเรามีความไวต่อคาเฟอีนมากน้อยแค่ไหน และปรับเวลาในการดื่มกาแฟให้เหมาะสมกับตัวเอง เพื่อการนอนหลับที่ดี และสุขภาพที่แข็งแรงในระยะยาว.