ทำกิ๊ฟเสียเงินกี่บาท

ทำกิ๊ฟต์ (GIFT) เสียเงินเท่าไหร่? คู่มือเตรียมความพร้อมด้านการเงิน

การมีบุตรเป็นความปรารถนาของใครหลายคู่ แต่บางครั้งธรรมชาติก็ไม่เป็นใจ เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่เข้ามาเติมเต็มความฝันนี้ หนึ่งในนั้นคือ “กิ๊ฟต์” (GIFT – Gamete Intrafallopian Transfer) ซึ่งเป็นวิธีการที่นำไข่และอสุจิของคู่สมรสมาผสมกันภายนอกร่างกายในห้องปฏิบัติการ แล้วฉีดกลับเข้าไปในท่อนำไข่ของฝ่ายหญิงเพื่อให้เกิดการปฏิสนธิตามธรรมชาติ

คำถามสำคัญที่หลายคู่มักกังวลคือ “ทำกิ๊ฟต์เสียเงินเท่าไหร่?” ซึ่งเป็นคำถามที่ตอบได้ยากและไม่มีตัวเลขที่ตายตัว เนื่องจากค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ได้แก่

• สถานพยาบาล: คลินิกหรือโรงพยาบาลแต่ละแห่งมีมาตรฐาน เทคโนโลยี และค่าบริการที่แตกต่างกัน คลินิกเอกชนอาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าโรงพยาบาลของรัฐ แต่ก็อาจมาพร้อมกับความสะดวกสบายและเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า
• เทคโนโลยีที่ใช้: เทคโนโลยีที่ใช้ในการทำกิ๊ฟต์มีหลายแบบ เช่น การใช้ยาฉีดกระตุ้นไข่ การเก็บไข่ การเตรียมอสุจิ การฉีดกลับเข้าสู่ท่อนำไข่ ซึ่งเทคโนโลยีที่ซับซ้อนกว่าย่อมมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า
• ความซับซ้อนของเคส: แต่ละคู่มีสภาวะร่างกายและปัญหาการมีบุตรที่แตกต่างกัน บางรายอาจต้องใช้ยาหรือกระบวนการเพิ่มเติม ซึ่งส่งผลต่อค่าใช้จ่ายโดยรวม
• ค่าใช้จ่ายอื่นๆ: นอกจากค่าใช้จ่ายหลักในการทำกิ๊ฟต์แล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ควรคำนึงถึง เช่น ค่ายา ค่าตรวจเลือด ค่าอัลตราซาวด์ ค่าเดินทาง และค่าที่พัก (หากต้องเดินทางไปรับบริการต่างจังหวัด)

โดยภาพรวมแล้ว ค่าใช้จ่ายในการทำกิ๊ฟต์ในประเทศไทยอาจเริ่มต้นที่ ประมาณหลายแสนบาท และอาจสูงขึ้นไปถึง หลักล้านบาท ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น

ดังนั้น คู่สมรสที่วางแผนจะทำกิ๊ฟต์ควร ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เพื่อประเมินสภาวะร่างกาย วางแผนการรักษา และสอบถามรายละเอียดค่าใช้จ่ายจากสถานพยาบาลที่เลือกใช้บริการ เพื่อเตรียมความพร้อมด้านการเงินให้เหมาะสม และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการรับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องจากแหล่งอื่นๆ การวางแผนทางการเงินที่ดีจะช่วยลดความกังวลและทำให้การเดินทางสู่การมีบุตรเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น