ทำไมเป็นหวัดไม่หายสักที

1 การดู

ไข้หวัดใหญ่ส่วนใหญ่หายได้เองภายใน 7-10 วัน แต่หากมีอาการนานเกินกว่านั้น เช่น ไข้สูงต่อเนื่อง เจ็บคออย่างรุนแรง หรือมีเสมหะสีเขียวหรือเหลือง ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอื่นๆ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ซึ่งอาจจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษา

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ทำไมเป็นหวัดไม่หายสักที: มากกว่าแค่หวัดธรรมดาที่คุณอาจมองข้าม

อาการหวัดเป็นสิ่งที่หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล เจ็บคอ อาการเหล่านี้มักสร้างความรำคาญใจ แต่ส่วนใหญ่มักจะหายได้เองภายใน 7-10 วัน ตามที่หลายคนทราบกันดี แต่ถ้าหากอาการหวัดของคุณลากยาว กินเวลานานกว่านั้น จนเริ่มตั้งคำถามว่า “ทำไมเป็นหวัดไม่หายสักที?” นั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีบางสิ่งที่ไม่ปกติเกิดขึ้น

บทความนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อแทนที่คำแนะนำทางการแพทย์ แต่ต้องการเจาะลึกถึงสาเหตุที่เป็นไปได้ที่ทำให้คุณต้องเผชิญหน้ากับอาการหวัดที่ดูเหมือนจะไม่ยอมหายไปไหน และสิ่งที่ควรทำเมื่ออาการหวัดของคุณเริ่มผิดปกติ

เมื่อไหร่ที่ “หวัด” ไม่ใช่แค่ “หวัด”?

ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น หวัดทั่วไปมักจะดีขึ้นภายในหนึ่งสัปดาห์ แต่หากคุณยังคงมีอาการดังต่อไปนี้ต่อเนื่อง หรืออาการแย่ลง ควรพิจารณาถึงสาเหตุอื่นนอกเหนือจากหวัดธรรมดา:

  • ไข้สูงต่อเนื่อง: หากไข้ของคุณสูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส และไม่ลดลงแม้ทานยาลดไข้ อาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อที่รุนแรงกว่า
  • เจ็บคออย่างรุนแรง: อาการเจ็บคอที่รุนแรงจนกลืนน้ำลายลำบาก อาจไม่ใช่แค่จากหวัด แต่อาจเป็นการติดเชื้อสเตรปโตค็อกคัส (Strep throat) ที่ต้องได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ
  • เสมหะสีเขียวหรือเหลือง: เสมหะที่มีสีเขียวหรือเหลือง มักเป็นสัญญาณของการติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินหายใจ
  • หายใจลำบาก หรือ หายใจมีเสียงหวีด: อาการเหล่านี้อาจบ่งบอกถึงภาวะหลอดลมอักเสบ ปอดบวม หรือโรคประจำตัวเกี่ยวกับทางเดินหายใจที่กำเริบ
  • ปวดศีรษะรุนแรง หรือ ปวดตามใบหน้า: อาการเหล่านี้อาจบ่งบอกถึงภาวะไซนัสอักเสบ (Sinusitis)
  • อาการแย่ลงหลังจากดีขึ้นแล้ว: หากคุณรู้สึกว่าอาการหวัดของคุณดีขึ้นแล้ว แต่กลับแย่ลงอีกครั้ง นั่นอาจหมายถึงการติดเชื้อซ้ำซ้อน

สาเหตุที่ทำให้หวัดเรื้อรังที่คุณอาจไม่เคยรู้

นอกเหนือจากการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจทำให้หวัดของคุณไม่หายสักที:

  • ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ: ระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ อาจทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจัยที่ส่งผลต่อภูมิคุ้มกัน ได้แก่ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และโรคประจำตัวบางชนิด
  • ภูมิแพ้: อาการแพ้ ไม่ว่าจะเป็นแพ้ละอองเกสร แพ้ไรฝุ่น หรือแพ้อาหาร อาจทำให้เกิดอาการคล้ายหวัด เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล และเจ็บคอ การสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ซ้ำๆ อาจทำให้อาการ “หวัด” เรื้อรัง
  • โรคประจำตัว: ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด โรคปอด หรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นหวัดเรื้อรังมากกว่าคนทั่วไป
  • การติดเชื้อไวรัสชนิดอื่น: ไวรัสหลายชนิดสามารถทำให้เกิดอาการคล้ายหวัดได้ บางครั้งการติดเชื้อไวรัสที่ไม่ใช่ไข้หวัดใหญ่ (influenza) อาจมีอาการนานกว่าหวัดธรรมดา
  • มลภาวะทางอากาศ: การสัมผัสกับมลภาวะทางอากาศ เช่น ฝุ่น PM2.5 หรือควันบุหรี่ อาจทำให้เยื่อบุทางเดินหายใจระคายเคือง และทำให้เกิดอาการคล้ายหวัดเรื้อรัง

เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์?

หากคุณมีอาการหวัดที่เข้าข่ายอาการที่กล่าวมาข้างต้น หรือมีอาการอื่นๆ ที่รบกวนชีวิตประจำวันอย่างมาก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม การปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงกว่าเดิม

ดูแลตัวเองเพื่อป้องกันหวัดเรื้อรัง

ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเป็นหวัดได้ทั้งหมด แต่เราสามารถดูแลตัวเองเพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นหวัดเรื้อรังได้:

  • พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เน้นอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุสูง เช่น ผัก ผลไม้ และธัญพืช
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
  • ล้างมือบ่อยๆ: การล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาด เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย: หากมีคนรอบข้างป่วยเป็นหวัด ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิด
  • จัดการความเครียด: ความเครียดสามารถลดประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันได้ การจัดการความเครียดด้วยวิธีต่างๆ เช่น การทำสมาธิ การออกกำลังกาย หรือการทำกิจกรรมที่ชอบ สามารถช่วยให้คุณมีสุขภาพดีขึ้น

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้หวัดไม่หายสักที และช่วยให้คุณดูแลสุขภาพของตัวเองได้อย่างเหมาะสม หากคุณมีข้อสงสัยหรือกังวลใดๆ เกี่ยวกับสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม