วันหมดอายุยา ดูยังไง

2 การดู

การตรวจสอบวันหมดอายุยา ควรดูที่ฉลากยา โดยทั่วไปจะระบุเป็น EXP ตามด้วยวัน เดือน ปี ที่ยาหมดอายุ เช่น EXP 15/10/2567 หมายถึงยาหมดอายุวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2567 ควรสังเกตสัญลักษณ์และตัวเลขอย่างละเอียด เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา อย่าใช้ยาที่หมดอายุแล้วเด็ดขาด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ล้วงลึกเคล็ดลับ อ่านฉลากยา: เช็ควันหมดอายุให้ชัวร์ ปลอดภัยต่อสุขภาพ

การใช้ยาอย่างถูกต้องและปลอดภัยถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อสุขภาพของเรา การทำความเข้าใจข้อมูลบนฉลากยา จึงเป็นทักษะที่ทุกคนควรมีติดตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตรวจสอบ “วันหมดอายุ” ซึ่งเป็นด่านสำคัญในการป้องกันอันตรายจากการใช้ยาเสื่อมสภาพ

ข้อมูลพื้นฐานที่คุณทราบแล้วคือ การมองหาสัญลักษณ์ “EXP” ที่มักจะมาพร้อมกับตัวเลขระบุ วัน เดือน ปี ที่ยาหมดอายุ อย่างเช่น “EXP 15/10/2567” หมายถึงยาหมดอายุในวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2567 นั่นเอง

แต่การอ่านวันหมดอายุยา ไม่ได้มีเพียงแค่นั้น! บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงรายละเอียดที่ควรรู้ เพื่อให้คุณเช็ควันหมดอายุได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น

1. มองหาให้ทั่ว: ตำแหน่งที่อาจซ่อนอยู่

  • ไม่ใช่แค่ฉลากหลัก: วันหมดอายุอาจไม่ได้อยู่แค่บนฉลากหลักเสมอไป ลองมองหาที่แผงยา (blister pack), หลอดยา, หรือแม้แต่กล่องบรรจุภัณฑ์ หากเป็นยาที่มาในรูปแบบผงสำหรับผสม วันหมดอายุอาจจะอยู่บนซองผง หรือขวดน้ำยาสำหรับผสม
  • ยาที่แบ่งบรรจุ: หากคุณซื้อยาจากร้านขายยาที่แบ่งยาจากกระปุกใหญ่มาให้ คุณควรสอบถามวันหมดอายุจากเภสัชกร และจดบันทึกไว้บนฉลากยาที่ได้รับมา เพื่อความไม่ประมาท

2. การตีความเมื่อข้อมูลไม่ชัดเจน:

  • “Use By” หรือ “Best Before”: นอกจาก “EXP” แล้ว คุณอาจพบคำว่า “Use By” หรือ “Best Before” ซึ่งมีความหมายใกล้เคียงกัน คือวันที่แนะนำให้ใช้ก่อน เพื่อคุณภาพและประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของยา
  • วันหมดอายุที่ระบุเฉพาะเดือนและปี: หากระบุเพียงเดือนและปี เช่น “EXP 10/2567” โดยทั่วไปหมายถึง ยาจะหมดอายุในวันสุดท้ายของเดือนนั้นๆ (ในกรณีนี้คือ 31 ตุลาคม 2567)

3. หลังเปิดใช้: อายุการใช้งานที่เปลี่ยนไป

  • ยาบางชนิดมีอายุการใช้งานหลังเปิดใช้: ยาบางประเภท เช่น ยาหยอดตา, ยาน้ำเชื่อม, หรือยาปฏิชีวนะชนิดน้ำ จะมีอายุการใช้งานที่สั้นลงหลังเปิดใช้ครั้งแรก ซึ่งมักจะระบุไว้บนฉลาก เช่น “ใช้ได้ภายใน 14 วันหลังเปิดขวด” ดังนั้นจึงควรจดวันที่เปิดใช้ยาไว้ เพื่อป้องกันการใช้ยาที่เสื่อมสภาพ
  • สังเกตลักษณะภายนอก: แม้จะยังไม่ถึงวันหมดอายุ แต่หากยาเปลี่ยนแปลงลักษณะ เช่น สีเปลี่ยน, มีกลิ่นผิดปกติ, หรือยาเม็ดแตกหัก ก็ไม่ควรใช้

4. การจัดเก็บยาที่ถูกต้อง: ปัจจัยสำคัญที่มองข้ามไม่ได้

  • เก็บยาในที่แห้งและเย็น: แสงแดด ความร้อน และความชื้น เป็นศัตรูตัวร้ายที่ทำให้ยาเสื่อมสภาพก่อนวันหมดอายุ ดังนั้นควรเก็บยาในที่แห้งและเย็น พ้นจากแสงแดดโดยตรง และหลีกเลี่ยงการเก็บยาในห้องน้ำหรือในรถ
  • เก็บยาในบรรจุภัณฑ์เดิม: การเก็บยาในบรรจุภัณฑ์เดิม ช่วยป้องกันยาจากความชื้นและแสงแดด รวมถึงช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลบนฉลากยาได้อย่างสะดวก

5. ยาหมดอายุ: โยนทิ้งอย่างถูกวิธี

  • ไม่ทิ้งยาทั่วไป: การทิ้งยาหมดอายุลงในถังขยะทั่วไป อาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและผู้อื่นที่อาจสัมผัสยาโดยไม่ได้ตั้งใจ
  • สอบถามวิธีการทิ้งยาจากเภสัชกร: ร้านขายยาส่วนใหญ่มักจะมีบริการรับทิ้งยาหมดอายุอย่างถูกวิธี หรือสอบถามวิธีการทิ้งยาที่ถูกต้องจากเภสัชกรใกล้บ้าน

สรุป:

การตรวจสอบวันหมดอายุยาเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ แต่ต้องอาศัยความใส่ใจและความละเอียดรอบคอบ เพียงมองหาฉลากยา อ่านข้อมูลอย่างถี่ถ้วน สังเกตลักษณะภายนอกของยา และจัดเก็บยาอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยให้คุณใช้ยาได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่าละเลยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ เพราะสุขภาพของคุณสำคัญที่สุด!