เก็บของทอดยังไง

เคล็ดลับ เก็บ “ของทอด” ให้กรอบนาน อร่อยเหมือนเพิ่งขึ้นจากเตา!

ของทอดร้อนๆ กรอบๆ เป็นเมนูโปรดของใครหลายคน แต่ความอร่อยนี้มักอยู่กับเราได้ไม่นานนัก ทิ้งไว้ไม่ทันไรก็เหี่ยว เหนียว ไม่อร่อยเหมือนเดิม บทความนี้จึงขอเสนอเคล็ดลับเด็ด เก็บ “ของทอด” อย่างไร ให้อยู่กับเรานานขึ้น อร่อยเหมือนเพิ่งขึ้นจากเตา!

1. ปล่อยให้เย็นสนิทก่อนเก็บ:

ข้อนี้สำคัญมาก! อย่าใจร้อนเก็บของทอดทั้งที่ยังร้อนอยู่เด็ดขาด เพราะไอน้ำที่ระเหยออกมาจะทำให้ของทอดเสียความกรอบ กลายเป็นเหนียวแฉะแทน ควรพักของทอดบนตะแกรงที่ยกสูงจากพื้น เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก ช่วยระบายความร้อนและไอน้ำได้ดีขึ้น

2. เลือกภาชนะที่เหมาะสม:

• ภาชนะบรรจุอาหาร: เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะมักมีฝาปิดสนิท ป้องกันไม่ให้อากาศเข้าไปทำลายความกรอบของอาหาร ควรเลือกขนาดให้พอดีกับปริมาณของทอด เพื่อลดช่องว่างที่มีอากาศอยู่ภายใน
• กล่องมีฝาปิด: กล่องพลาสติกหรือกล่องแก้วที่หาได้ทั่วไปก็ใช้ได้เช่นกัน
• ถุงซิปล็อค: หากจำเป็นต้องใช้ถุง ควรเลือกแบบซิปล็อคที่มีคุณภาพดี ปิดปากถุงให้สนิท และอย่าลืมไล่อากาศออกจากถุงให้หมดก่อนปิดปากถุง

3. แยกประเภทของทอด:

ของทอดแต่ละชนิดมีความชื้นและกลิ่นแตกต่างกัน การเก็บรวมกันอาจทำให้มีกลิ่นปะปนกัน และส่งผลต่อรสชาติ ควรแยกเก็บเป็นอย่างๆ เช่น หมูทอด ไก่ทอด ปลาทอด หรือผักทอด เป็นต้น

4. เทคนิคพิเศษสำหรับผักทอด:

ผักทอดมักเหี่ยวเฉาง่ายกว่าของทอดชนิดอื่นๆ หลังทอดเสร็จแล้ว ควรซับน้ำมันออกให้หมดด้วยกระดาษซับมัน และพักไว้บนตะแกรงจนเย็นสนิทจริงๆ ก่อนนำไปเก็บในภาชนะที่ปิดสนิท

5. ไม่เก็บในตู้เย็น!

หลายคนเข้าใจผิด คิดว่าการแช่เย็นจะช่วยรักษาความกรอบของอาหาร แต่ความจริงแล้ว อุณหภูมิเย็นจัดในตู้เย็นจะดึงความชื้นออกจากของทอด ทำให้แข็งและไม่อร่อย ดังนั้น ควรเก็บของทอดไว้ในอุณหภูมิห้องปกติในบริเวณที่แห้งและเย็น

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

• สามารถนำของทอดที่เก็บไว้กลับมาอุ่นร้อนอีกครั้งในเตาอบ หม้อทอดไร้น้ำมัน หรือไมโครเวฟ เพื่อให้กลับมากรอบอร่อยเหมือนเดิม
• หากต้องการเก็บของทอดไว้เป็นเวลานาน สามารถเก็บไว้ในช่องแช่แข็งได้ แต่ควรแบ่งเป็นส่วนๆ ตามปริมาณที่ต้องการรับประทาน และนำออกมาคลายความเย็นก่อนนำไปอุ่นร้อน

เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถเพลิดเพลินกับ “ของทอด” แสนอร่อยได้นานวันขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเสียรสชาติ ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้กันดูนะคะ!