การส่งคลื่นวิทยุ FM จะใช้การแพร่กระจายคลื่นวิทยุประเภทใด

การส่งคลื่นวิทยุ FM ใช้การแพร่กระจายคลื่นวิทยุประเภทใด

การส่งคลื่นวิทยุ FM (Frequency Modulation) นั้นแตกต่างจากการส่งคลื่นวิทยุ AM (Amplitude Modulation) อย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่ในเรื่องคุณภาพเสียง แต่ยังรวมถึงหลักการแพร่กระจายคลื่นด้วย คลื่นวิทยุ FM ไม่ใช่การแพร่กระจายแบบเดียวกับคลื่นวิทยุ AM ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงแอมพลิจูด (ความเข้ม) ของคลื่นพาหะ แต่ FM ใช้การเปลี่ยนแปลงความถี่ของคลื่นพาหะแทน

การแพร่กระจายคลื่นวิทยุ FM โดยพื้นฐานแล้วจัดอยู่ในประเภท การแพร่กระจายคลื่นแบบเส้นตรงและการสะท้อน หมายความว่าคลื่นวิทยุ FM จะเดินทางเป็นเส้นตรงโดยตรงจากเสาส่งไปยังเสารับ แต่ก็มีความซับซ้อนกว่านั้น เนื่องจากคลื่นวิทยุสามารถสะท้อนได้จากชั้นบรรยากาศและวัตถุต่างๆ ทำให้เกิดการรวมกันและการแยกของคลื่น ทำให้การรับสัญญาณในบางพื้นที่อาจอ่อนแอหรือได้รับสัญญาณซ้อนทับ การสะท้อนเหล่านี้สามารถนำไปสู่การรวมสัญญาณ (constructive interference) หรือการตัดกันของสัญญาณ (destructive interference) ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพสัญญาณ

ประสิทธิภาพการส่งคลื่น FM ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญหลายประการ ความสูงของเสาส่งและเสารับเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญ เพราะยิ่งเสาสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างมากขึ้น นอกจากนี้ ลักษณะภูมิประเทศ สภาพอากาศ และการมีสิ่งกีดขวาง เช่น อาคารหรือภูเขา ก็มีผลต่อการแพร่กระจายคลื่นด้วย

ความไวต่อการรบกวนน้อยกว่า AM และมีคุณภาพเสียงที่ดีกว่า จึงเหมาะสำหรับการออกอากาศในระยะใกล้ถึงปานกลาง นั่นเป็นเพราะคลื่น FM มีความไวต่อการรบกวนจากคลื่นความถี่อื่นหรือสัญญาณรบกวนอื่น ๆ น้อยกว่าคลื่น AM ส่งผลให้คุณภาพเสียงมีความชัดเจนและมีรายละเอียด

เพื่อขยายพื้นที่ครอบคลุม การส่งคลื่น FM อาจใช้เสาส่งหลายจุด การใช้เสาส่งหลายจุด (หรือระบบรีเลย์) ช่วยให้คลื่นเดินทางครอบคลุมพื้นที่กว้างขึ้น และส่งผลให้มีการรับสัญญาณที่ดีขึ้นในบริเวณที่อยู่ห่างออกไป นอกจากนี้ การออกแบบระบบอุปกรณ์เสริมเช่น เสาอากาศ สายส่ง และอุปกรณ์รับสัญญาณ ก็มีความสำคัญต่อประสิทธิภาพการทำงานด้วย โดยสรุป คลื่นวิทยุ FM ใช้กลไกการแพร่กระจายแบบผสมผสาน โดยการเดินทางเป็นเส้นตรงหลัก แต่ก็มีการสะท้อนและการรวมกันของคลื่นที่ซับซ้อน ทำให้การออกอากาศในระยะใกล้ถึงปานกลางมีประสิทธิภาพสูง