การส่งวิทยุกระจายเสียง FM ใช้ย่านความถี่วิทยุใด

14 การดู

วิทยุ FM กระจายเสียงด้วยคลื่นความถี่ 88-108 MHz การผสมผสานคลื่นเสียงกับคลื่นพาหะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่ คลื่น FM เดินทางในแนวตรง เสาอากาศรับสัญญาณที่สูงขึ้นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรับสัญญาณในพื้นที่ห่างไกลหรือมีสิ่งกีดขวาง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เสียงเพลงขับกล่อมยามเช้า ข่าวสารที่อัพเดทตลอดวัน ล้วนส่งตรงถึงคุณผ่านคลื่นวิทยุ FM แต่เคยสงสัยไหมว่าคลื่นเสียงเหล่านี้เดินทางมาถึงหูเราได้อย่างไร? บทความนี้จะพาไปสำรวจโลกของคลื่นวิทยุ FM และย่านความถี่ที่มันครอบครอง

วิทยุ FM หรือ Frequency Modulation ใช้ย่านความถี่ 88-108 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ในการกระจายเสียง ตัวเลขเหล่านี้แสดงถึงจำนวนครั้งที่คลื่นวิทยุสั่นสะเทือนในหนึ่งวินาที ยิ่งความถี่สูง จำนวนการสั่นสะเทือนก็ยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย การเลือกใช้ย่านความถี่นี้มีเหตุผลทางเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของคุณภาพเสียงและความทนทานต่อสัญญาณรบกวนเมื่อเทียบกับ AM (Amplitude Modulation)

ความมหัศจรรย์ของวิทยุ FM อยู่ที่กระบวนการ “ผสมผสาน” คลื่นเสียงที่เราต้องการส่ง เช่น เสียงเพลงหรือเสียงพูด จะถูกนำมาผสมกับคลื่นพาหะที่มีความถี่คงที่ในช่วง 88-108 MHz กระบวนการนี้ทำให้ความถี่ของคลื่นพาหะเปลี่ยนแปลงไปตามความแรงของคลื่นเสียง นั่นคือ เสียงดัง ความถี่จะเปลี่ยนแปลงมาก เสียงเบา ความถี่จะเปลี่ยนแปลงน้อย นี่คือที่มาของคำว่า “Frequency Modulation” หรือการปรับความถี่

ลักษณะการเดินทางของคลื่นวิทยุ FM เป็นแบบ “Line-of-Sight” หรือแนวสายตา หมายความว่าคลื่นจะเดินทางเป็นเส้นตรง ดังนั้น สิ่งกีดขวางต่างๆ เช่น ตึกสูง ภูเขา หรือแม้แต่ต้นไม้ใหญ่ สามารถบดบังและลดทอนความแรงของสัญญาณได้ ด้วยเหตุนี้ การติดตั้งเสาอากาศรับสัญญาณในตำแหน่งที่สูง โล่ง และไม่มีสิ่งกีดขวาง จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรับสัญญาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ห่างไกลจากสถานีส่ง หรือพื้นที่ที่มีสิ่งกีดขวางมาก

นอกจากความสูงของเสาอากาศแล้ว คุณภาพของเสาอากาศ สายนำสัญญาณ และตัวรับสัญญาณวิทยุก็มีส่วนสำคัญในการรับสัญญาณ FM ที่ชัดเจนและมีคุณภาพสูง การเลือกใช้อุปกรณ์ที่ดี ร่วมกับการติดตั้งที่ถูกต้อง จะช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับเสียงเพลงและรายการวิทยุที่คุณชื่นชอบได้อย่างเต็มอรรถรส.