การส่งสัญญาณในระบบ FM จะใช้ความถี่ในช่วงใด
ระบบวิทยุ FM ใช้ความถี่วิทยุในช่วง 88 ถึง 108 เมกะเฮิรตซ์ การส่งสัญญาณจะผสมสัญญาณเสียงเข้ากับคลื่นพาหะ ทำให้ความถี่ของคลื่นพาหะเปลี่ยนแปลงตามสัญญาณเสียง ส่งผลให้คุณภาพเสียงที่ชัดเจนและมีรายละเอียด
การส่งสัญญาณ FM: เสียงใสๆ บนคลื่นความถี่ 88-108 MHz
ระบบวิทยุ FM (Frequency Modulation) ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก ด้วยคุณภาพเสียงที่คมชัดและรายละเอียดสูงกว่าระบบ AM ความสำเร็จนี้มาจากหลักการส่งสัญญาณที่ใช้การเปลี่ยนแปลงความถี่ของคลื่นพาหะ แต่คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าระบบ FM นี้ใช้ความถี่ใดในการส่งสัญญาณ
คำตอบคือ ระบบวิทยุ FM ทั่วโลกใช้ช่วงความถี่วิทยุระหว่าง 88 ถึง 108 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ช่วงความถี่นี้ถูกแบ่งออกเป็นช่องสัญญาณต่างๆ เพื่อให้สถานีวิทยุต่างๆ สามารถกระจายเสียงได้โดยไม่รบกวนซึ่งกันและกัน การกำหนดความกว้างของแต่ละช่องสัญญาณมีความสำคัญเพื่อให้มั่นใจว่าสัญญาณไม่ทับซ้อนกันและมีคุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม
การส่งสัญญาณ FM แตกต่างจาก AM (Amplitude Modulation) ซึ่งใช้การปรับแอมพลิจูด (ความสูง) ของคลื่นพาหะ ในระบบ FM การส่งสัญญาณเสียงจะทำโดยการปรับความถี่ของคลื่นพาหะให้เปลี่ยนแปลงไปตามความถี่ของสัญญาณเสียง นั่นคือ เมื่อเสียงมีความถี่สูง ความถี่ของคลื่นพาหะก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย และในทางกลับกัน การเปลี่ยนแปลงความถี่นี้เองที่ทำให้ระบบ FM สามารถส่งสัญญาณเสียงที่มีความคมชัดและมีรายละเอียดได้ดีกว่าระบบ AM โดยเฉพาะในด้านการลดสัญญาณรบกวน ทำให้ผู้ฟังได้รับฟังเสียงที่มีคุณภาพสูงกว่า
นอกจากนี้ ความกว้างของช่องสัญญาณในระบบ FM ยังช่วยให้สามารถส่งข้อมูลเพิ่มเติมได้ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับรายการ ศิลปิน และข้อมูลอื่นๆ ที่สถานีวิทยุต้องการส่งไปยังผู้ฟัง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกฝังอยู่ในสัญญาณ FM โดยไม่รบกวนคุณภาพเสียงหลัก
ดังนั้น การเลือกใช้ช่วงความถี่ 88-108 MHz และการปรับเปลี่ยนความถี่ของคลื่นพาหะ จึงเป็นหัวใจสำคัญของระบบ FM ที่ทำให้เราสามารถรับฟังเสียงเพลง ข่าวสาร และรายการต่างๆ ได้อย่างคมชัด สะอาด และมีคุณภาพสูง ตลอดจนเป็นมาตรฐานสากลที่สถานีวิทยุทั่วโลกยึดถือปฏิบัติ
#คลื่นวิทยุ#ความถี่วิทยุ#ระบบ Fmข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต