ฉันจะกลับหน้าจอเดิมได้อย่างไร

2 การดู

แก้ไขหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่หมุนผิดพลาดได้ง่ายๆ ด้วยแป้นพิมพ์ลัด! กดปุ่ม Ctrl+Alt+Up Arrow เพื่อกลับหน้าจอไปยังทิศทางปกติ หรือใช้ลูกศรซ้าย/ขวา เพื่อหมุนหน้าจอ 90 องศาตามต้องการ วิธีนี้ใช้งานได้กับหลายระบบปฏิบัติการ ช่วยแก้ปัญหาหน้าจอหมุนได้อย่างรวดเร็ว

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

หน้าจอหมุนเอง! ไม่ต้องตกใจ แก้ได้ง่ายๆ ในพริบตา (ฉบับละเอียด)

เคยไหม? กำลังทำงานอย่างตั้งใจ จู่ๆ หน้าจอก็พลิกคว่ำ ตะแคงข้าง หรือหันไปทางอื่นซะอย่างนั้น! อาการหน้าจอคอมพิวเตอร์หมุนผิดทิศทางนี้ อาจทำให้หลายคนตกใจและเสียสมาธิในการทำงานได้ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะปัญหานี้แก้ไขได้ง่ายๆ ด้วยวิธีที่เราจะนำเสนอต่อไปนี้ รับรองว่าคุณจะสามารถพลิกหน้าจอกลับมาอยู่ในทิศทางปกติได้ในเวลาไม่นาน

ทำไมหน้าจอถึงหมุนเอง?

ก่อนที่จะไปดูวิธีแก้ไข เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าจอของเราหมุนเองได้ สาเหตุหลักๆ มีดังนี้:

  • อุบัติเหตุจากการกดปุ่ม: บางครั้งเราอาจเผลอไปกดปุ่มลัด (Hotkey) ที่ตั้งค่าไว้สำหรับหมุนหน้าจอโดยไม่ตั้งใจ
  • การตั้งค่าซอฟต์แวร์กราฟิก: โปรแกรมควบคุมกราฟิกบางตัว (เช่น NVIDIA Control Panel หรือ AMD Radeon Settings) อาจมีการตั้งค่าให้หมุนหน้าจอได้
  • ไวรัสหรือมัลแวร์: ในกรณีที่พบน้อย ไวรัสหรือมัลแวร์บางชนิดอาจเข้าไปเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าระบบ ทำให้หน้าจอหมุนได้
  • ปัญหาไดรเวอร์: ไดรเวอร์การ์ดจอที่เก่าหรือเสียหาย อาจทำให้เกิดปัญหาหน้าจอหมุนได้เช่นกัน

วิธีแก้ไขหน้าจอหมุน (แบบละเอียด)

มีหลายวิธีในการแก้ไขปัญหาหน้าจอหมุน ขึ้นอยู่กับสาเหตุและระบบปฏิบัติการที่คุณใช้งาน

1. ใช้ปุ่มลัด (Hotkey):

วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด ซึ่งใช้ได้กับระบบปฏิบัติการ Windows ส่วนใหญ่:

  • กลับสู่ทิศทางปกติ: กดปุ่ม Ctrl + Alt + ลูกศรขึ้น (↑)
  • หมุนหน้าจอ 90 องศา (ตามเข็มนาฬิกา): กดปุ่ม Ctrl + Alt + ลูกศรขวา (→)
  • หมุนหน้าจอ 180 องศา (คว่ำหน้าจอ): กดปุ่ม Ctrl + Alt + ลูกศรลง (↓)
  • หมุนหน้าจอ 270 องศา (ทวนเข็มนาฬิกา): กดปุ่ม Ctrl + Alt + ลูกศรซ้าย (←)

ข้อควรจำ: ปุ่มลัดนี้อาจไม่ทำงานในบางกรณี หากถูกปิดใช้งานหรือมีการตั้งค่าอื่นไว้

2. แก้ไขผ่านการตั้งค่า Windows:

หากปุ่มลัดไม่ได้ผล ลองใช้วิธีการตั้งค่าโดยตรงใน Windows:

  • Windows 10/11:

    1. คลิกขวาบนพื้นที่ว่างบนหน้าจอ Desktop
    2. เลือก Display settings (หรือ การตั้งค่าการแสดงผล)
    3. เลื่อนลงมาที่ส่วน Display orientation (หรือ ทิศทางการแสดงผล)
    4. เลือกทิศทางที่ต้องการ (เช่น Landscape สำหรับทิศทางปกติ)
    5. คลิก Keep changes (หรือ รักษาการเปลี่ยนแปลง) เพื่อยืนยัน
  • Windows 7/8:

    1. คลิกขวาบนพื้นที่ว่างบนหน้าจอ Desktop
    2. เลือก Screen resolution (หรือ ความละเอียดหน้าจอ)
    3. หาตัวเลือก Orientation (หรือ ทิศทาง)
    4. เลือกทิศทางที่ต้องการ (เช่น Landscape สำหรับทิศทางปกติ)
    5. คลิก Apply (หรือ นำไปใช้) และ OK เพื่อยืนยัน

3. แก้ไขผ่านโปรแกรมควบคุมกราฟิก (NVIDIA/AMD):

หากคุณมีการ์ดจอจาก NVIDIA หรือ AMD คุณสามารถแก้ไขการตั้งค่าหน้าจอผ่านโปรแกรมควบคุมกราฟิกได้:

  • NVIDIA Control Panel:

    1. คลิกขวาบนพื้นที่ว่างบนหน้าจอ Desktop
    2. เลือก NVIDIA Control Panel
    3. ในส่วน Display (หรือ จอแสดงผล) เลือก Rotate display (หรือ หมุนจอแสดงผล)
    4. เลือกทิศทางที่ต้องการ
    5. คลิก Apply (หรือ นำไปใช้)
  • AMD Radeon Settings:

    1. คลิกขวาบนพื้นที่ว่างบนหน้าจอ Desktop
    2. เลือก AMD Radeon Settings
    3. ไปที่แท็บ Display (หรือ จอแสดงผล)
    4. หาตัวเลือก Display Rotation (หรือ การหมุนจอแสดงผล)
    5. เลือกทิศทางที่ต้องการ
    6. คลิก Apply (หรือ นำไปใช้)

4. ตรวจสอบไดรเวอร์การ์ดจอ:

หากไดรเวอร์การ์ดจอเก่าหรือเสียหาย อาจทำให้เกิดปัญหาหน้าจอหมุนได้ ลองอัปเดตไดรเวอร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด:

  • วิธีอัปเดต:
    1. กดปุ่ม Windows + X แล้วเลือก Device Manager (หรือ ตัวจัดการอุปกรณ์)
    2. ขยายส่วน Display adapters (หรือ อะแดปเตอร์จอแสดงผล)
    3. คลิกขวาที่การ์ดจอของคุณ แล้วเลือก Update driver (หรือ อัปเดตไดรเวอร์)
    4. เลือก Search automatically for drivers (หรือ ค้นหาไดรเวอร์โดยอัตโนมัติ)

ข้อควรระวัง:

  • ตรวจสอบการตั้งค่า Hotkey: หากคุณไม่ต้องการให้หน้าจอหมุนโดยไม่ได้ตั้งใจ คุณสามารถปิดใช้งานหรือเปลี่ยนแปลงปุ่มลัดสำหรับการหมุนหน้าจอได้ ในโปรแกรมควบคุมกราฟิก (NVIDIA/AMD)
  • สแกนไวรัส: เพื่อความปลอดภัย ควรสแกนคอมพิวเตอร์ของคุณด้วยโปรแกรมป้องกันไวรัสเป็นประจำ

สรุป:

ปัญหาหน้าจอหมุนเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและแก้ไขได้ง่าย หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้คุณสามารถแก้ไขปัญหาหน้าจอหมุนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ หากลองทำตามวิธีเหล่านี้แล้วยังไม่สามารถแก้ไขได้ อาจจำเป็นต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบปัญหาที่ซับซ้อนกว่าเดิม