ฉันจะล้างแคชบน PC ได้อย่างไร

3 การดู

การล้างประวัติการใช้งานบน Chrome บน Windows สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการคลิกที่ไอคอนสามจุด มุมขวาบน เลือก เพิ่มเติมเครื่องมือ แล้วเลือก ล้างข้อมูลการท่องเว็บ เลือกช่วงเวลา ตั้งแต่ต้น และเลือก คุกกี้และข้อมูลไซต์อื่นๆ รวมถึง รูปภาพและไฟล์ที่แคชไว้ จากนั้นคลิก ล้างข้อมูล แคชและประวัติการท่องเว็บของคุณจะถูกลบออกอย่างสมบูรณ์

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ล้างแคชให้คอมพิวเตอร์: คืนความสดใส เพิ่มประสิทธิภาพ ให้เครื่องแรงเหมือนใหม่!

คอมพิวเตอร์ของเราทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง ทั้งเปิดโปรแกรม เล่นเกม ท่องอินเทอร์เน็ต และอื่นๆ อีกมากมาย กิจกรรมเหล่านี้ทิ้งร่องรอยไว้ในรูปแบบของ “แคช” ซึ่งเป็นไฟล์ชั่วคราวที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยให้การทำงานในครั้งต่อไปเร็วขึ้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป แคชที่สะสมมากเกินไปกลับกลายเป็นภาระ ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง เกิดอาการหน่วง หรือแม้กระทั่งเกิดปัญหาที่ไม่คาดฝัน

ดังนั้น การล้างแคชจึงเป็นเหมือนการทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ให้คอมพิวเตอร์ ช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่สะสม ช่วยให้เครื่องกลับมาสดใส ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้ง

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักวิธีการล้างแคชในคอมพิวเตอร์ของคุณอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นแคชในเบราว์เซอร์ (เช่น Chrome) หรือแคชที่อยู่ในระบบปฏิบัติการ Windows เพื่อให้คุณสามารถดูแลคอมพิวเตอร์ของคุณให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ

ทำไมต้องล้างแคช? อะไรคือประโยชน์?

ก่อนที่เราจะไปดูวิธีการล้างแคช เรามาทำความเข้าใจถึงประโยชน์ของการล้างแคชกันก่อน:

  • เพิ่มความเร็วในการทำงาน: เมื่อแคชถูกล้าง คอมพิวเตอร์ของคุณจะไม่ต้องเสียเวลาในการค้นหาข้อมูลเก่าๆ ทำให้การเปิดโปรแกรมหรือเว็บไซต์ต่างๆ รวดเร็วขึ้น
  • แก้ไขปัญหาเบราว์เซอร์: การล้างแคชสามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเบราว์เซอร์ได้ เช่น เว็บไซต์แสดงผลผิดเพี้ยน หรือไม่สามารถเข้าถึงบางเว็บไซต์ได้
  • เพิ่มพื้นที่ว่างในฮาร์ดดิสก์: ไฟล์แคชมีขนาดเล็กก็จริง แต่เมื่อสะสมเป็นจำนวนมาก ก็สามารถกินพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์ได้ การล้างแคชจึงช่วยเพิ่มพื้นที่ว่างให้ฮาร์ดดิสก์ของคุณได้
  • ป้องกันปัญหาด้านความปลอดภัย: บางครั้งไฟล์แคชอาจมีข้อมูลส่วนตัวของคุณอยู่ การล้างแคชจึงช่วยลดความเสี่ยงในการถูกโจรกรรมข้อมูลได้

วิธีการล้างแคชบน Chrome (ตัวอย่าง):

ดังที่คุณได้กล่าวถึงในเนื้อหาของคุณ การล้างแคชใน Chrome เป็นเรื่องง่าย เพียงทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

  1. เปิด Google Chrome: เริ่มต้นด้วยการเปิดเบราว์เซอร์ Google Chrome
  2. คลิกที่ไอคอนสามจุด: มองหาไอคอนสามจุดแนวตั้งที่มุมขวาบนของหน้าจอ แล้วคลิก
  3. เลือก “เครื่องมือเพิ่มเติม”: ในเมนูที่ปรากฏขึ้น ให้เลื่อนเมาส์ไปที่ “เครื่องมือเพิ่มเติม” (More tools)
  4. เลือก “ล้างข้อมูลการท่องเว็บ”: จากนั้นเลือก “ล้างข้อมูลการท่องเว็บ” (Clear browsing data)
  5. เลือกช่วงเวลา: ในหน้าต่างใหม่ที่เปิดขึ้น ให้เลือกช่วงเวลาที่คุณต้องการล้างแคช โดยแนะนำให้เลือก “ตั้งแต่เริ่มต้น” (All time) เพื่อล้างแคชทั้งหมด
  6. เลือกประเภทข้อมูล: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือกช่อง “คุกกี้และข้อมูลไซต์อื่นๆ” (Cookies and other site data) และ “รูปภาพและไฟล์ที่แคชไว้” (Cached images and files)
  7. คลิก “ล้างข้อมูล”: สุดท้าย คลิกที่ปุ่ม “ล้างข้อมูล” (Clear data) เพื่อเริ่มกระบวนการล้างแคช

เคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับการล้างแคชบน Windows:

นอกจากแคชในเบราว์เซอร์แล้ว ยังมีแคชอื่นๆ ที่อยู่ในระบบปฏิบัติการ Windows ที่คุณสามารถล้างได้:

  • การล้างไฟล์ชั่วคราว (Temporary Files): ไฟล์ชั่วคราวเป็นไฟล์ที่สร้างขึ้นโดยโปรแกรมต่างๆ ในระหว่างการทำงาน และมักจะถูกทิ้งไว้หลังจากที่โปรแกรมปิดตัวลง การล้างไฟล์ชั่วคราวเป็นประจำจะช่วยเพิ่มพื้นที่ว่างในฮาร์ดดิสก์และเพิ่มประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์

    • กดปุ่ม Windows + R เพื่อเปิดกล่อง Run
    • พิมพ์ %temp% แล้วกด Enter
    • เลือกไฟล์ทั้งหมด (Ctrl + A) แล้วกด Delete
  • การล้าง Prefetch Files: Prefetch เป็นคุณสมบัติของ Windows ที่ช่วยให้โปรแกรมเปิดตัวได้เร็วขึ้น แต่ไฟล์ Prefetch ที่มากเกินไปก็สามารถทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลงได้

    • กดปุ่ม Windows + R เพื่อเปิดกล่อง Run
    • พิมพ์ prefetch แล้วกด Enter (คุณอาจต้องให้สิทธิ์ในการเข้าถึงโฟลเดอร์)
    • เลือกไฟล์ทั้งหมด (Ctrl + A) แล้วกด Delete
  • การใช้ Disk Cleanup: Windows มีเครื่องมือที่เรียกว่า Disk Cleanup ที่สามารถช่วยคุณล้างไฟล์ที่ไม่จำเป็นต่างๆ เช่น ไฟล์ชั่วคราว ไฟล์ในถังรีไซเคิล และไฟล์แคช

    • ค้นหา “Disk Cleanup” ในช่องค้นหาของ Windows แล้วเปิด
    • เลือกไดรฟ์ที่คุณต้องการทำความสะอาด (ส่วนใหญ่คือ C:)
    • เลือกประเภทไฟล์ที่คุณต้องการล้าง แล้วคลิก OK

ข้อควรระวัง:

  • ก่อนที่จะล้างแคช ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้บันทึกข้อมูลสำคัญต่างๆ ที่คุณกำลังทำงานอยู่ เพราะการล้างแคชอาจทำให้คุณต้องลงชื่อเข้าใช้เว็บไซต์ต่างๆ ใหม่อีกครั้ง
  • ระวังการลบไฟล์ที่ไม่คุ้นเคย หากไม่แน่ใจว่าไฟล์นั้นคืออะไร อย่าลบ

สรุป:

การล้างแคชเป็นวิธีการดูแลคอมพิวเตอร์ที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มความเร็วในการทำงาน แก้ไขปัญหาเบราว์เซอร์ และเพิ่มพื้นที่ว่างในฮาร์ดดิสก์ ลองทำตามขั้นตอนต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น เพื่อให้คอมพิวเตอร์ของคุณกลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง!