ฉันจะเลิกซื้อ iCloud ได้อย่างไร

4 การดู

ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูล iCloud เพิ่มใช่ไหม? ก่อนตัดสินใจซื้อเพิ่ม ลองจัดการพื้นที่เก็บข้อมูลปัจจุบันของคุณก่อน! เคล็ดลับง่ายๆ: เข้าไปที่การตั้งค่า iCloud, จัดการพื้นที่จัดเก็บ, และลบข้อมูลสำรองเก่าๆ ของอุปกรณ์ที่คุณไม่ได้ใช้แล้ว เพียงเท่านี้คุณอาจมีพื้นที่เหลือเฟือโดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม!

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

บอกลาค่า iCloud รายเดือน: เทคนิคจัดการพื้นที่แบบไม่ต้องจ่ายเพิ่ม!

หลายคนประสบปัญหาพื้นที่เก็บข้อมูล iCloud ไม่เพียงพอ และทางออกที่ง่ายที่สุดที่ผุดขึ้นมาในหัวคือการ “ซื้อเพิ่ม” แต่ช้าก่อน! ก่อนที่คุณจะควักกระเป๋าจ่ายค่าบริการรายเดือน ลองพิจารณาดูดีๆ ว่าคุณได้ใช้พื้นที่ที่มีอยู่ให้คุ้มค่าแล้วหรือยัง?

การมีพื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์เป็นเรื่องที่ดี ช่วยให้ข้อมูลสำคัญของเราปลอดภัยและเข้าถึงได้ง่ายจากทุกอุปกรณ์ แต่บ่อยครั้งที่เราละเลยการจัดการ ทำให้ข้อมูลที่ไม่จำเป็นสะสมจนเต็มพื้นที่ หากคุณกำลังเจอปัญหา iCloud เต็ม ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้ รับรองว่าอาจช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเงินซื้อพื้นที่เพิ่มเลยก็ได้!

1. สำรวจและทำความเข้าใจการใช้งาน:

ก่อนจะเริ่มลบอะไรทิ้ง เราต้องรู้ก่อนว่าอะไรที่กินพื้นที่ของเราไปมากที่สุด วิธีการคือ:

  • เข้าไปที่การตั้งค่า (Settings) > แตะที่ชื่อของคุณ (Apple ID) > iCloud > จัดการพื้นที่จัดเก็บ (Manage Storage)
  • คุณจะเห็นรายการแอปพลิเคชันที่ใช้พื้นที่ iCloud และปริมาณที่แต่ละแอปใช้ นี่คือจุดเริ่มต้นที่เราจะเริ่มจัดการ

2. กำจัดข้อมูลสำรอง (Backup) ที่ไม่จำเป็น:

ข้อมูลสำรอง (Backup) ของ iPhone และ iPad เป็นตัวการสำคัญที่กินพื้นที่ iCloud ไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีอุปกรณ์หลายเครื่อง:

  • ลบข้อมูลสำรองของอุปกรณ์เก่า: หากคุณเปลี่ยนโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตไปแล้ว ข้อมูลสำรองของเครื่องเก่าก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป ลบมันทิ้งซะ!
  • ตรวจสอบข้อมูลที่สำรอง: ก่อนจะลบ ลองดูว่าข้อมูลอะไรบ้างที่ถูกสำรองขึ้น iCloud คุณสามารถเลือกปิดการสำรองข้อมูลของแอปที่ไม่สำคัญได้ เช่น เกมที่มีข้อมูลจำนวนมาก

3. จัดการรูปภาพและวิดีโอ:

รูปภาพและวิดีโอคุณภาพสูงมักมีขนาดไฟล์ใหญ่ และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ iCloud เต็มเร็ว ลองพิจารณาทางเลือกเหล่านี้:

  • ลบรูปภาพและวิดีโอซ้ำซ้อน: เรามักถ่ายรูปหลายๆ ครั้งเพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด ลองสละเวลาลบภาพที่ไม่สวยหรือไม่จำเป็นออกไป
  • ย้ายรูปภาพและวิดีโอไปยังที่เก็บข้อมูลอื่น: คุณสามารถย้ายรูปภาพและวิดีโอไปยังฮาร์ดไดรฟ์ภายนอก คอมพิวเตอร์ หรือบริการคลาวด์อื่นๆ (เช่น Google Photos, Dropbox) แล้วลบออกจาก iCloud
  • เปิดใช้งาน iCloud Photos Optimization: หากคุณต้องการเก็บรูปภาพทั้งหมดไว้ใน iCloud แต่ต้องการประหยัดพื้นที่ ให้เปิดใช้งาน iCloud Photos Optimization ซึ่งจะเก็บรูปภาพความละเอียดต่ำไว้ในอุปกรณ์ของคุณ และเก็บรูปภาพความละเอียดสูงไว้ใน iCloud

4. ตรวจสอบและจัดการไฟล์อื่นๆ:

นอกจากข้อมูลสำรองและรูปภาพแล้ว ยังมีไฟล์ประเภทอื่นๆ ที่อาจกินพื้นที่ iCloud ของคุณ:

  • ไฟล์เอกสาร: ลบเอกสารเก่าที่ไม่ใช้ออกไป หรือย้ายไปเก็บไว้ในที่อื่น
  • อีเมล: ลบอีเมลเก่าๆ ที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอีเมลที่มีไฟล์แนบขนาดใหญ่
  • แอปอื่นๆ: บางแอปอาจเก็บข้อมูลไว้ใน iCloud โดยที่คุณไม่รู้ตัว ลองตรวจสอบและลบข้อมูลที่ไม่จำเป็น

5. ปิดการสำรองข้อมูลของแอปที่ไม่สำคัญ:

ในการตั้งค่า iCloud คุณสามารถเลือกได้ว่าจะให้แอปใดบ้างสำรองข้อมูลขึ้น iCloud หากคุณมีแอปที่ไม่สำคัญ หรือแอปที่ข้อมูลไม่ได้สำคัญมากนัก ลองปิดการสำรองข้อมูลของแอปนั้นเพื่อประหยัดพื้นที่

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

  • ล้างถังขยะ (Recently Deleted): เมื่อคุณลบไฟล์ออกจาก iCloud ไฟล์เหล่านั้นจะถูกย้ายไปอยู่ในถังขยะ (Recently Deleted) เป็นระยะเวลา 30 วัน เพื่อให้คุณสามารถกู้คืนได้ หากคุณมั่นใจว่าไม่ต้องการไฟล์เหล่านั้นแล้ว ให้เข้าไปล้างถังขยะเพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างทันที
  • ใช้เครื่องมือวิเคราะห์พื้นที่จัดเก็บ: มีแอปพลิเคชันมากมายที่ช่วยวิเคราะห์พื้นที่จัดเก็บข้อมูลใน iPhone และ iPad ของคุณ ซึ่งจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมและจัดการข้อมูลได้ง่ายขึ้น

การจัดการพื้นที่ iCloud อาจต้องใช้เวลาและความอดทนเล็กน้อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือการประหยัดเงินในระยะยาว และที่สำคัญกว่านั้นคือการที่เราได้เรียนรู้ที่จะจัดระเบียบข้อมูลดิจิทัลของเราให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น ก่อนที่จะตัดสินใจจ่ายเงินเพิ่ม ลองทำตามเคล็ดลับเหล่านี้ แล้วคุณอาจพบว่าคุณไม่จำเป็นต้องเสียเงินเพิ่มเลย!