ประเภทของ Search Engine หลักมีกี่ชนิด

2 การดู

เครื่องมือค้นหาหลักแบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มที่ใช้ Crawler อย่าง Google, Bing และ DuckDuckGo ซึ่งค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ และกลุ่มที่ใช้ Directory ซึ่งอาศัยการจัดหมวดหมู่เว็บไซต์โดยมนุษย์ เช่น DMOZ (ปิดให้บริการแล้ว) ปัจจุบันกลุ่ม Crawler ได้รับความนิยมมากกว่า เนื่องจากสามารถค้นหาข้อมูลได้ครอบคลุมกว่า

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

มากกว่าแค่ Google: เจาะลึกโลกของ Search Engine และการทำงานที่แตกต่าง

เมื่อพูดถึง “Search Engine” หรือเครื่องมือค้นหา หลายคนอาจนึกถึงแค่ Google ในทันที แต่แท้จริงแล้ว โลกของ Search Engine นั้นกว้างใหญ่กว่าที่คิด และมีวิธีการทำงานที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่แตกต่างกันไป บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจประเภทหลักของ Search Engine และทำความเข้าใจถึงกลไกการทำงานที่ซับซ้อนเบื้องหลังการค้นหาข้อมูลที่รวดเร็วและแม่นยำ

ดังที่กล่าวไปข้างต้น Search Engine สามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ ตามวิธีการรวบรวมและจัดระเบียบข้อมูล:

1. Search Engine ที่ใช้ Crawler (หรือ Spider): ราชาแห่งการคลานเว็บ

Search Engine ประเภทนี้ ได้แก่ Google, Bing, Yahoo! และ DuckDuckGo ซึ่งเป็นที่นิยมและใช้งานกันอย่างแพร่หลาย พวกเขาใช้โปรแกรมอัตโนมัติที่เรียกว่า “Crawler” (หรือ Spider, Web Bot) ในการท่องไปในโลกอินเทอร์เน็ตอย่างไม่หยุดหย่อน Crawler เหล่านี้จะ “คลาน” ไปตามลิงก์ต่างๆ ที่พบในเว็บไซต์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เก็บข้อมูลและสร้างดัชนี (Index) ขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมเนื้อหาบนเว็บได้อย่างมหาศาล

กลไกการทำงานของ Crawler-based Search Engine:

  • Crawling: Crawler เริ่มต้นจากเว็บไซต์ที่รู้จักแล้ว จากนั้นจะติดตามลิงก์ไปยังหน้าเว็บอื่นๆ และบันทึกเนื้อหา
  • Indexing: ข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้จะถูกวิเคราะห์และจัดเก็บในรูปแบบที่เรียกว่า “ดัชนี” ซึ่งทำให้ Search Engine สามารถค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็ว
  • Ranking: เมื่อผู้ใช้ป้อนคำค้นหา Search Engine จะทำการเปรียบเทียบกับดัชนี และจัดอันดับผลลัพธ์ตามความเกี่ยวข้อง ความน่าเชื่อถือ และปัจจัยอื่นๆ ที่ซับซ้อน

ข้อดีของ Crawler-based Search Engine:

  • ครอบคลุมข้อมูลจำนวนมาก: สามารถรวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ ได้อย่างกว้างขวาง ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่หลากหลาย
  • อัปเดตข้อมูลอยู่เสมอ: Crawler ทำงานอยู่ตลอดเวลา ทำให้ดัชนีของ Search Engine ทันสมัยอยู่เสมอ
  • ค้นหาได้รวดเร็ว: ดัชนีที่มีประสิทธิภาพช่วยให้การค้นหาข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็ว

2. Search Engine ที่ใช้ Directory: สารานุกรมออนไลน์ที่สร้างโดยมนุษย์

Search Engine ประเภทนี้แตกต่างจาก Crawler-based Search Engine อย่างสิ้นเชิง พวกเขาอาศัยการจัดหมวดหมู่เว็บไซต์โดยมนุษย์ (Human Editors) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา ตัวอย่างในอดีตคือ DMOZ (Directory Mozilla Open Directory) ซึ่งเป็น Directory ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ปัจจุบันได้ปิดให้บริการแล้ว)

กลไกการทำงานของ Directory-based Search Engine:

  • Submission: เจ้าของเว็บไซต์ส่งข้อมูลเว็บไซต์ของตนเองไปยัง Directory พร้อมระบุหมวดหมู่ที่เหมาะสม
  • Review: บรรณาธิการ (Editors) จะทำการตรวจสอบเว็บไซต์ที่ส่งมา และพิจารณาว่าจะอนุมัติให้เว็บไซต์นั้นอยู่ในหมวดหมู่ใด
  • Categorization: เว็บไซต์ที่ได้รับการอนุมัติจะถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง ทำให้ผู้ใช้สามารถค้นหาเว็บไซต์ที่ต้องการได้ตามหมวดหมู่

ข้อดีของ Directory-based Search Engine:

  • ข้อมูลที่ถูกคัดกรอง: ข้อมูลที่อยู่ใน Directory มักได้รับการคัดกรองและตรวจสอบโดยมนุษย์ ทำให้มีความน่าเชื่อถือมากกว่า
  • การจัดหมวดหมู่ที่ชัดเจน: ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลเฉพาะทางได้ง่ายขึ้น

ความนิยมที่เปลี่ยนแปลงไป:

ในอดีต Directory-based Search Engine เคยได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ปัจจุบัน Crawler-based Search Engine ได้รับความนิยมมากกว่า เนื่องจากสามารถค้นหาข้อมูลได้ครอบคลุมกว่า และอัปเดตข้อมูลได้รวดเร็วกว่า อย่างไรก็ตาม Directory-based Search Engine ยังคงมีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการค้นหาข้อมูลเฉพาะทาง หรือต้องการข้อมูลที่ได้รับการคัดกรองมาแล้ว

มากกว่าแค่สองประเภทหลัก:

นอกเหนือจากสองประเภทหลักที่กล่าวมา ยังมี Search Engine ประเภทอื่นๆ อีก เช่น

  • Metasearch Engine: เป็น Search Engine ที่ส่งคำค้นหาไปยัง Search Engine อื่นๆ หลายแห่ง แล้วนำผลลัพธ์มารวมกัน ตัวอย่างเช่น Dogpile และ Metacrawler
  • Vertical Search Engine: เป็น Search Engine ที่เน้นการค้นหาข้อมูลในสาขาเฉพาะ เช่น Google Scholar (สำหรับบทความวิชาการ) และ Kayak (สำหรับการจองเที่ยวบินและโรงแรม)

สรุป:

โลกของ Search Engine มีความหลากหลายและซับซ้อน การทำความเข้าใจประเภทต่างๆ ของ Search Engine และกลไกการทำงานของแต่ละประเภท จะช่วยให้คุณสามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูลทั่วไปด้วย Google หรือการค้นหาข้อมูลเฉพาะทางด้วย Vertical Search Engine การรู้จักเครื่องมือที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและได้รับข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ