ปิดแมพยังไง

2 การดู

ต้องการลบข้อมูลสถานที่ใน Google Maps อย่างถาวรใช่ไหม? เพียงเปิด Google Maps ค้นหาสถานที่ที่ต้องการ แล้วเลือก แนะนำให้แก้ไข จากนั้นเลือก สถานที่ปิดไปแล้วหรือไม่อยู่ที่นี่ และสุดท้าย เลือก ปิดถาวร แล้วส่งข้อมูล เท่านี้ข้อมูลสถานที่ก็จะถูกลบออกไป

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ปิดตำนาน…เมื่อสถานที่ใน Google Maps ไม่ใช่แค่ “ไม่อยู่ที่นี่”

Google Maps กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว ไม่ว่าจะเดินทาง หาข้อมูลร้านอาหาร หรือแม้แต่สำรวจสถานที่ใหม่ๆ แต่บางครั้ง สถานที่ที่เราเห็นบนแผนที่อาจไม่ใช่สิ่งที่ปรากฏในโลกแห่งความเป็นจริงอีกต่อไป อาจเป็นร้านที่ปิดตัวลง โรงเรียนที่ย้ายที่ตั้ง หรือแม้กระทั่งซากปรักหักพังที่ควรถูกลบออกจากสารบบดิจิทัล

บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกวิธีการ “ปิดแมพ” สถานที่ใน Google Maps อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลที่คุณเห็นนั้นถูกต้องและเป็นปัจจุบันที่สุด และเหนือกว่าการแค่แจ้งว่า “ไม่อยู่ที่นี่” เพราะเราจะเน้นที่การ “ปิดถาวร” เพื่อลบข้อมูลนั้นออกไปจากระบบอย่างถาวร

ทำไมต้อง “ปิดถาวร” ไม่ใช่แค่ “ไม่อยู่ที่นี่”?

การแจ้งว่า “ไม่อยู่ที่นี่” เป็นการแจ้งเบื้องต้นว่าสถานที่นั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง แต่ข้อมูลอาจยังคงอยู่บนแผนที่ หากคุณต้องการให้ข้อมูลนั้นถูกลบออกไปอย่างถาวร การแจ้งว่า “ปิดถาวร” คือทางเลือกที่เหมาะสมกว่า เพราะจะช่วย:

  • ลดความสับสน: ผู้ใช้งานจะไม่เสียเวลาเดินทางไปยังสถานที่ที่ไม่มีอยู่อีกต่อไป
  • ปรับปรุงความถูกต้อง: Google Maps จะมีข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันมากขึ้น
  • รักษาความน่าเชื่อถือ: สร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานว่า Google Maps เป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้

ขั้นตอนการ “ปิดแมพ” อย่างถาวร: คู่มือฉบับละเอียด

  1. เปิด Google Maps: เริ่มต้นด้วยการเปิดแอปพลิเคชัน Google Maps บนมือถือหรือเข้าใช้งานผ่านเว็บไซต์บนคอมพิวเตอร์

  2. ค้นหาสถานที่เป้าหมาย: ค้นหาสถานที่ที่คุณต้องการลบข้อมูล โดยพิมพ์ชื่อสถานที่หรือที่อยู่ลงในช่องค้นหา

  3. เข้าสู่หน้าข้อมูลสถานที่: เมื่อพบสถานที่แล้ว ให้คลิกหรือแตะที่ชื่อสถานที่นั้น เพื่อเข้าสู่หน้าข้อมูลโดยละเอียด

  4. มองหา “แนะนำให้แก้ไข”: เลื่อนลงมาในหน้าข้อมูลสถานที่ คุณจะพบปุ่ม “แนะนำให้แก้ไข” (Suggest an edit) หรือ “แก้ไขข้อมูล” (Edit information) ให้คลิกที่ปุ่มนี้

  5. เลือก “สถานที่ปิดไปแล้วหรือไม่อยู่ที่นี่”: ในเมนูที่ปรากฏขึ้น เลือกตัวเลือกที่ระบุว่า “สถานที่ปิดไปแล้วหรือไม่อยู่ที่นี่” (Closed or permanently closed) หรือข้อความที่ใกล้เคียงกัน

  6. เจาะจง “ปิดถาวร”: ในหน้าถัดไป คุณจะพบตัวเลือกต่างๆ ที่อธิบายสถานะของสถานที่ ให้เลือก “ปิดถาวร” (Permanently closed) หรือ “ปิดทำการถาวร” (Permanently shut down) หากมีตัวเลือกให้ระบุเหตุผลเพิ่มเติม เช่น “ย้ายที่ตั้ง” หรือ “ปรับปรุงใหม่” ให้เลือกเหตุผลที่เหมาะสม

  7. ให้ข้อมูลเพิ่มเติม (ถ้ามี): หากมีข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ เช่น ภาพถ่ายสถานที่ที่ปิดแล้ว หรือหลักฐานอื่นๆ ที่แสดงว่าสถานที่นั้นปิดตัวลงจริง คุณสามารถแนบไปพร้อมกับการรายงานได้

  8. ส่งข้อมูล: ตรวจสอบข้อมูลที่คุณเลือกอีกครั้ง และกดปุ่ม “ส่ง” (Send) หรือ “ส่งข้อมูล” (Submit)

สิ่งที่ควรรู้หลังส่งข้อมูล:

  • การตรวจสอบ: Google จะทำการตรวจสอบข้อมูลที่คุณส่งมา ซึ่งอาจใช้เวลาสักครู่
  • การแจ้งเตือน: คุณอาจได้รับการแจ้งเตือนเมื่อ Google ตรวจสอบข้อมูลของคุณเสร็จสิ้น
  • การมีส่วนร่วมของชุมชน: บางครั้ง Google อาจขอให้ผู้ใช้งานคนอื่นๆ ในพื้นที่นั้นช่วยยืนยันข้อมูล

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

  • ภาพถ่ายช่วยยืนยัน: การแนบภาพถ่ายสถานที่ที่ปิดแล้ว จะช่วยให้การตรวจสอบเป็นไปได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
  • ความสม่ำเสมอ: หากคุณพบสถานที่ที่ควรถูกลบออกจากแผนที่อย่างต่อเนื่อง การแจ้งข้อมูลอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ Google Maps มีข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น

การ “ปิดแมพ” สถานที่ที่ไม่ถูกต้องใน Google Maps ไม่ใช่แค่การแก้ไขข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ แต่เป็นการสร้างประโยชน์ให้กับผู้ใช้งาน Google Maps ทุกคน เพราะข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน คือหัวใจสำคัญของการนำทางและการค้นหาสถานที่ที่มีประสิทธิภาพ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชุมชน Google Maps ที่ดีขึ้น ด้วยการ “ปิดตำนาน” สถานที่ที่ไม่มีอยู่อีกต่อไป!