รีเซ็ท iPhone ทำยังไง

6 การดู

ตัวอย่างข้อมูลแนะนำใหม่:

ทำความรู้จักกับโหมด อย่ารบกวน ใน iPhone:

โหมด อย่ารบกวน ช่วยให้คุณปิดเสียงแจ้งเตือนทั้งหมดและการโทรเข้ายกเว้นจากผู้ติดต่อในรายชื่อที่อนุญาต เพียงแค่เปิดใช้งานในศูนย์ควบคุม หรือตั้งค่าเวลาการใช้งานใน การตั้งค่า เพื่อความสงบสุขและโฟกัสที่คุณต้องการ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

รีเซ็ท iPhone: คู่มือครบครันสำหรับทุกปัญหา

iPhone ของคุณใช้งานช้า แอพพลิเคชั่นมีปัญหา หรือคุณต้องการลบข้อมูลทั้งหมดออก? การรีเซ็ท iPhone อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด! บทความนี้จะแนะนำวิธีการรีเซ็ท iPhone ทั้งหมด ตั้งแต่การรีสตาร์ทแบบปกติ ไปจนถึงการล้างข้อมูลทั้งหมด

1. การรีสตาร์ท iPhone

วิธีนี้เป็นการแก้ไขปัญหาพื้นฐาน โดยการปิดและเปิดเครื่องใหม่ ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาเล็กน้อย เช่น แอพพลิเคชั่นค้างหรือระบบทำงานผิดพลาดได้

วิธีการ:

  • กดปุ่มเพิ่มระดับเสียงค้างไว้ แล้วปล่อย
  • กดปุ่มลดระดับเสียงค้างไว้ แล้วปล่อย
  • กดปุ่มด้านข้างค้างไว้จนกระทั่งโลโก้ Apple ปรากฏ

2. รีเซ็ทการตั้งค่าเครือข่าย

วิธีนี้จะลบข้อมูลการเชื่อมต่อ WiFi, บลูทูธ และ VPN

วิธีการ:

  • เปิดแอพพลิเคชั่น การตั้งค่า
  • เลือก ทั่วไป
  • เลือก ถ่ายโอนหรือรีเซ็ท iPhone
  • เลือก รีเซ็ท
  • เลือก รีเซ็ทการตั้งค่าเครือข่าย

3. รีเซ็ทการตั้งค่าทั้งหมด

วิธีนี้จะนำการตั้งค่าทั้งหมดกลับสู่สภาพเริ่มต้นจากโรงงาน โดยไม่ลบข้อมูลส่วนบุคคล

วิธีการ:

  • เปิดแอพพลิเคชั่น การตั้งค่า
  • เลือก ทั่วไป
  • เลือก ถ่ายโอนหรือรีเซ็ท iPhone
  • เลือก รีเซ็ท
  • เลือก รีเซ็ทการตั้งค่าทั้งหมด

4. ลบข้อมูลทั้งหมด (Restore)

วิธีนี้จะลบข้อมูลทั้งหมดออกจาก iPhone

วิธีการ:

  • เปิดแอพพลิเคชั่น การตั้งค่า
  • เลือก ทั่วไป
  • เลือก ถ่ายโอนหรือรีเซ็ท iPhone
  • เลือก ลบข้อมูลทั้งหมด

5. รีเซ็ทโดยใช้ iTunes

วิธีนี้จะรีเซ็ท iPhone โดยใช้คอมพิวเตอร์

วิธีการ:

  • เชื่อมต่อ iPhone กับคอมพิวเตอร์
  • เปิด iTunes
  • เลือก iPhone จากรายการอุปกรณ์
  • คลิก สรุป
  • คลิก คืนค่า iPhone

คำแนะนำ:

  • สำรองข้อมูล iPhone ก่อนการรีเซ็ททุกครั้ง
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณรู้รหัสผ่าน Apple ID ก่อนรีเซ็ท iPhone
  • หากปัญหาเกิดขึ้นหลังการอัปเดต iOS ลองติดตั้ง iOS เวอร์ชันก่อนหน้า

การรีเซ็ท iPhone สามารถแก้ไขปัญหาหลายอย่างได้ แต่ควรเลือกวิธีที่เหมาะสมกับปัญหาของคุณ หากคุณไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไร ควรปรึกษา Apple Support หรือผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี