รุ่น CPU ดูตรงไหน

4 การดู

อยากทราบสเปค CPU เครื่องคุณใช่ไหม? ไม่ต้องงมหา! แค่คลิกขวาที่ไอคอน Windows มุมซ้ายล่าง แล้วเลือก ระบบ มองหา โปรเซสเซอร์ คุณจะเห็นชื่อรุ่น, หมายเลข, และความเร็ว CPU ทันที ง่ายกว่าที่คิดเยอะ!

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

รู้จักขุมพลังคอมพิวเตอร์: วิธีเช็คสเปค CPU อย่างง่ายที่คุณอาจไม่เคยรู้

เคยสงสัยไหมว่าคอมพิวเตอร์ของคุณขับเคลื่อนด้วยขุมพลังอะไร? อยากรู้ไหมว่า CPU ของคุณรุ่นไหน แรงแค่ไหน? หลายคนอาจคิดว่าการเช็คสเปค CPU เป็นเรื่องยาก ต้องลงโปรแกรม หรือต้องมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ขั้นเทพ แต่จริงๆ แล้ว มันง่ายกว่าที่คุณคิดเยอะ!

บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจวิธีการเช็คสเปค CPU ของคุณแบบง่ายๆ รวดเร็ว และไม่ต้องง้อโปรแกรมใดๆ ทั้งสิ้น รับรองว่าหลังจากอ่านบทความนี้จบ คุณจะสามารถรู้รายละเอียด CPU ของคุณได้ในพริบตา!

ทำไมต้องรู้สเปค CPU?

ก่อนจะไปดูวิธีการเช็คสเปค CPU เรามาดูกันก่อนว่าทำไมเราถึงควรรู้ข้อมูลเหล่านี้:

  • ตรวจสอบความเข้ากันได้: เมื่อต้องการลงโปรแกรมหรือเกมใหม่ๆ การรู้สเปค CPU จะช่วยให้คุณตรวจสอบได้ว่า CPU ของคุณรองรับโปรแกรมหรือเกมเหล่านั้นหรือไม่
  • อัพเกรดคอมพิวเตอร์: หากคุณต้องการอัพเกรดคอมพิวเตอร์ การรู้สเปค CPU จะช่วยให้คุณเลือกอุปกรณ์อื่นๆ ที่เข้ากันได้อย่างเหมาะสม เช่น การ์ดจอ หรือ RAM
  • แก้ไขปัญหา: บางครั้งปัญหาของคอมพิวเตอร์อาจเกิดจาก CPU การรู้สเปค CPU จะช่วยให้คุณหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขปัญหาได้ง่ายขึ้น
  • เปรียบเทียบประสิทธิภาพ: หากคุณกำลังตัดสินใจซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ การรู้สเปค CPU จะช่วยให้คุณเปรียบเทียบประสิทธิภาพของ CPU แต่ละรุ่นได้

วิธีเช็คสเปค CPU แบบง่ายสุดๆ (ไม่ต้องง้อโปรแกรม!)

วิธีการที่ง่ายที่สุดในการเช็คสเปค CPU ของคุณคือการใช้เครื่องมือที่มีอยู่แล้วในระบบปฏิบัติการ Windows:

  1. คลิกขวาที่ปุ่ม Windows: มองหาปุ่ม Windows ที่มุมซ้ายล่างของหน้าจอ (หรือกดปุ่ม Windows บนคีย์บอร์ด) แล้วคลิกขวา
  2. เลือก “ระบบ” (System): ในเมนูที่ปรากฏขึ้น ให้เลือก “ระบบ” (System)
  3. มองหา “โปรเซสเซอร์” (Processor): หน้าต่าง “ระบบ” จะปรากฏขึ้น ภายใต้หัวข้อ “อุปกรณ์” (Device) หรือ “เกี่ยวกับ” (About) ให้มองหาบรรทัดที่เขียนว่า “โปรเซสเซอร์” (Processor)

เพียงเท่านี้ คุณก็จะเห็นข้อมูล CPU ของคุณปรากฏขึ้น ไม่ว่าจะเป็น:

  • ชื่อรุ่น (Model Name): เช่น Intel Core i5-10400F
  • หมายเลข (Number): เช่น 10400F
  • ความเร็ว (Speed): เช่น 2.90 GHz

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

  • Task Manager: อีกวิธีหนึ่งที่สามารถดูสเปค CPU ได้คือการเปิด Task Manager (กด Ctrl+Shift+Esc) แล้วเลือกแท็บ “ประสิทธิภาพ” (Performance) คุณจะเห็นกราฟแสดงการใช้งาน CPU และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • System Information: พิมพ์ “System Information” ในช่องค้นหาของ Windows แล้วกด Enter คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของคอมพิวเตอร์ รวมถึงข้อมูล CPU ด้วย

สรุป

การเช็คสเปค CPU ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงแค่ไม่กี่คลิก คุณก็สามารถรู้รายละเอียด CPU ของคุณได้แล้ว ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้กันดูนะครับ แล้วคุณจะพบว่าการทำความรู้จักกับขุมพลังคอมพิวเตอร์ของคุณนั้นง่ายกว่าที่คิดเยอะ!