สายไฟ 2.5 รับโหลดได้กี่แอมป์

12 การดู

สายไฟขนาด 2.5 ตารางมิลลิเมตร โดยทั่วไปทนกระแสไฟฟ้าได้ประมาณ 21 แอมป์ ควรใช้เบรกเกอร์ที่ต่ำกว่านี้เพื่อความปลอดภัย คำนวณเผื่อไว้ 15% จึงควรใช้เบรกเกอร์ไม่เกิน 18 แอมป์

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

สายไฟ 2.5 ตารางมิลลิเมตร รับกระแสไฟฟ้าได้เท่าไหร่? ความปลอดภัยที่คุณควรรู้

บ้านเรือนและอาคารต่างๆ ล้วนอาศัยระบบไฟฟ้าที่ซับซ้อน ซึ่งสายไฟเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำหน้าที่ลำเลียงกระแสไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ การเลือกใช้สายไฟให้เหมาะสมกับการใช้งานจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันความเสียหายต่อทรัพย์สินและอันตรายต่อชีวิต และหนึ่งในคำถามที่ถูกถามบ่อยคือ สายไฟขนาด 2.5 ตารางมิลลิเมตร รับโหลดได้กี่แอมป์?

คำตอบที่พบได้ทั่วไปคือ สายไฟขนาด 2.5 ตารางมิลลิเมตร โดยทั่วไปสามารถรับกระแสไฟฟ้าได้ประมาณ 21 แอมป์ แต่ตัวเลขนี้เป็นเพียงค่าประมาณ และมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ชนิดของฉนวน การเดินสาย และอุณหภูมิแวดล้อม ที่สำคัญ การใช้งานจริงจำเป็นต้องคำนึงถึงค่าเผื่อเพื่อความปลอดภัย

ทำไมต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ และค่าเผื่อ?

  • ชนิดของฉนวน: ฉนวน PVC XLPE หรืออื่นๆ จะมีความสามารถในการทนความร้อนแตกต่างกัน ส่งผลต่อความสามารถในการรับกระแสไฟฟ้า
  • การเดินสาย: การเดินสายในท่อฝังดิน หรือเดินสายในที่อากาศร้อน จะส่งผลต่ออุณหภูมิของสายไฟ ซึ่งจะลดความสามารถในการรับกระแสไฟฟ้าลง
  • อุณหภูมิแวดล้อม: อุณหภูมิที่สูงขึ้นจะทำให้สายไฟร้อนขึ้น และลดความสามารถในการรับกระแสไฟฟ้าลง
  • ความยาวของสายไฟ: สายไฟที่ยาวขึ้น จะมีการสูญเสียกระแสไฟฟ้ามากขึ้น จำเป็นต้องเลือกขนาดสายไฟที่ใหญ่ขึ้น

เพื่อความปลอดภัย ควรใช้เบรกเกอร์ขนาดเท่าใด?

แม้สายไฟ 2.5 ตารางมิลลิเมตร จะรับกระแสได้ประมาณ 21 แอมป์ แต่เพื่อความปลอดภัย การใช้เบรกเกอร์ขนาดเล็กกว่า และเผื่อค่าเผื่อไว้ เป็นสิ่งจำเป็น โดยทั่วไป แนะนำให้เผื่อค่าเผื่อประมาณ 15% ดังนั้น ควรเลือกใช้เบรกเกอร์ไม่เกิน 18 แอมป์ (21 แอมป์ x 0.85 = 17.85 แอมป์ ปัดขึ้นเป็น 18 แอมป์) การเลือกเบรกเกอร์ขนาดเล็กกว่าจะช่วยป้องกันการลัดวงจร ไฟฟ้าลัด และอัคคีภัย ซึ่งอาจเกิดจากการโอเวอร์โหลดของสายไฟ

สรุป:

สายไฟขนาด 2.5 ตารางมิลลิเมตร อาจรับกระแสไฟฟ้าได้ประมาณ 21 แอมป์ แต่เพื่อความปลอดภัย การเลือกใช้เบรกเกอร์ไม่เกิน 18 แอมป์ และคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น ชนิดของฉนวน การเดินสาย และอุณหภูมิแวดล้อม เป็นสิ่งจำเป็น หากไม่แน่ใจ ควรปรึกษาช่างไฟฟ้าผู้ชำนาญการ เพื่อให้ได้ระบบไฟฟ้าที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับการใช้งานของคุณ

ข้อควรระวัง: บทความนี้เป็นข้อมูลทั่วไป และไม่สามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลทางวิศวกรรม การเลือกใช้สายไฟและเบรกเกอร์ควรได้รับการคำนวณและออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าระบบไฟฟ้ามีความปลอดภัยและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ