เปลี่ยน Password Gmail ทํายังไง
เปลี่ยนรหัสผ่าน Gmail ง่ายๆ เพิ่มความปลอดภัยให้บัญชีของคุณ
ในโลกดิจิทัลที่ข้อมูลส่วนตัวของเราถูกจัดเก็บและใช้งานออนไลน์อยู่ตลอดเวลา ความปลอดภัยของบัญชีอีเมลถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Gmail ซึ่งเป็นบริการอีเมลที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย การเปลี่ยนรหัสผ่าน Gmail เป็นประจำจึงเป็นเหมือนเกราะป้องกันที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกแฮก หรือการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต
บทความนี้จะแนะนำขั้นตอนง่ายๆ ในการเปลี่ยนรหัสผ่าน Gmail พร้อมทั้งให้คำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อให้คุณสร้างรหัสผ่านที่แข็งแกร่งและปลอดภัยยิ่งขึ้น
ขั้นตอนการเปลี่ยนรหัสผ่าน Gmail อย่างละเอียด
-
เข้าสู่ระบบบัญชี Google ของคุณ: เริ่มต้นด้วยการเปิดเบราว์เซอร์ที่คุณใช้งานเป็นประจำ และเข้าไปที่เว็บไซต์ Gmail (mail.google.com) จากนั้นกรอกอีเมลแอดเดรสและรหัสผ่านปัจจุบันของคุณเพื่อเข้าสู่ระบบ หากคุณเปิดใช้งานการยืนยันแบบสองขั้นตอน (2-Step Verification) คุณจะต้องทำการยืนยันตัวตนเพิ่มเติมตามวิธีการที่คุณได้ตั้งค่าไว้
-
ไปที่เมนู ความปลอดภัย: เมื่อคุณเข้าสู่ระบบ Gmail สำเร็จแล้ว มองหาไอคอนรูปโปรไฟล์ของคุณ (โดยปกติจะอยู่มุมบนขวาของหน้าจอ) คลิกที่ไอคอนดังกล่าว จากนั้นเลือก จัดการบัญชี Google จากเมนูที่ปรากฏขึ้น คุณจะถูกนำไปยังหน้าภาพรวมของบัญชี Google ของคุณ มองหาแถบเมนูทางด้านซ้ายของหน้าจอ แล้วคลิกที่ ความปลอดภัย
-
เลือก รหัสผ่าน และยืนยันตัวตน: ในหน้า ความปลอดภัย เลื่อนลงมาจนกว่าคุณจะพบส่วนที่ชื่อว่า วิธีลงชื่อเข้าใช้ Google คลิกที่ รหัสผ่าน ระบบอาจขอให้คุณยืนยันตัวตนอีกครั้ง โดยการกรอกรหัสผ่านปัจจุบันของคุณ หรือใช้วิธีการยืนยันตัวตนอื่นๆ ที่คุณได้ตั้งค่าไว้
-
ตั้งรหัสผ่านใหม่ที่คาดเดายาก และจดจำได้ง่าย: เมื่อคุณยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว ระบบจะให้คุณป้อนรหัสผ่านใหม่ ในช่องที่กำหนด นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุด คุณควรถามตัวเองว่า รหัสผ่านนี้ปลอดภัยพอไหม? รหัสผ่านที่ดีควรมีความยาวอย่างน้อย 12 ตัวอักษร และประกอบด้วยตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ ตัวอักษรพิมพ์เล็ก ตัวเลข และสัญลักษณ์ผสมกัน หลีกเลี่ยงการใช้ข้อมูลส่วนตัวที่คาดเดาได้ง่าย เช่น วันเกิด ชื่อสัตว์เลี้ยง หรือหมายเลขโทรศัพท์
-
บันทึกการเปลี่ยนแปลง: หลังจากที่คุณป้อนรหัสผ่านใหม่ (และยืนยันรหัสผ่านอีกครั้งในช่องที่สอง) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้จดจำรหัสผ่านใหม่ของคุณไว้ในที่ปลอดภัย (เช่น โปรแกรมจัดการรหัสผ่าน) จากนั้นคลิกที่ปุ่ม เปลี่ยนรหัสผ่าน เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง
เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยของบัญชี Gmail
- เปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ: แม้ว่าคุณจะมีรหัสผ่านที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว การเปลี่ยนรหัสผ่านทุกๆ 3-6 เดือน จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัญชีของคุณได้มากยิ่งขึ้น
- หลีกเลี่ยงการใช้รหัสผ่านเดียวกันสำหรับหลายบัญชี: หากคุณใช้รหัสผ่านเดียวกันสำหรับ Gmail และบัญชีอื่นๆ บนอินเทอร์เน็ต หากบัญชีใดบัญชีหนึ่งถูกแฮก บัญชีอื่นๆ ที่ใช้รหัสผ่านเดียวกันก็จะตกอยู่ในความเสี่ยงไปด้วย
- เปิดใช้งานการยืนยันแบบสองขั้นตอน (2-Step Verification): การยืนยันแบบสองขั้นตอนจะเพิ่มชั้นความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง โดยนอกเหนือจากการกรอกรหัสผ่านแล้ว คุณจะต้องทำการยืนยันตัวตนผ่านอุปกรณ์อื่น เช่น โทรศัพท์มือถือของคุณ
- ระวังฟิชชิ่ง (Phishing): ฟิชชิ่งคือการหลอกลวงทางออนไลน์ที่พยายามขโมยข้อมูลส่วนตัวของคุณ เช่น รหัสผ่าน หรือข้อมูลบัตรเครดิต อย่าคลิกลิงก์ที่น่าสงสัย หรือให้ข้อมูลส่วนตัวของคุณกับเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
- ใช้โปรแกรมจัดการรหัสผ่าน: โปรแกรมจัดการรหัสผ่านสามารถช่วยคุณสร้างและจัดเก็บรหัสผ่านที่แข็งแกร่งได้อย่างปลอดภัย ช่วยให้คุณไม่ต้องจำรหัสผ่านที่ซับซ้อนจำนวนมาก
การปฏิบัติตามขั้นตอนและคำแนะนำเหล่านี้ จะช่วยให้คุณรักษาความปลอดภัยของบัญชี Gmail และปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
#Gmail#วิธีทำ#เปลี่ยนรหัสผ่าน