แอร์ 18000 BTU กินไฟกี่บาท ต่อ ชั่วโมง

2 การดู

แอร์ 18000 BTU กินไฟประมาณชั่วโมงละกี่บาท? คำนวณง่ายๆ ด้วยข้อมูลจำเพาะเครื่อง! ดูอัตราการกินไฟ (วัตต์) บนฉลากประหยัดไฟ, คูณค่าไฟต่อหน่วย (บาท/หน่วย) ที่การไฟฟ้ากำหนด, แล้วหารด้วย 1000 ก็จะได้ค่าไฟต่อชั่วโมงโดยประมาณ ช่วยให้คุณวางแผนการใช้แอร์ได้อย่างประหยัดและคุ้มค่า!

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

แอร์ 18,000 BTU กินไฟเท่าไหร่ต่อชั่วโมง? คำนวณง่ายๆ ประหยัดพลังงานได้จริง!

แอร์ 18,000 BTU เป็นขนาดที่ได้รับความนิยมสำหรับห้องขนาดกลางถึงใหญ่ แต่หลายคนอาจกังวลเรื่องค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่ายเพิ่มเมื่อใช้งาน ความจริงแล้ว ค่าใช้จ่ายต่อชั่วโมงไม่ได้ตายตัว ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง แต่เราสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายโดยประมาณได้อย่างง่ายดายด้วยข้อมูลที่หาได้จากตัวเครื่องเอง

สิ่งที่คุณต้องรู้เพื่อคำนวณ:

  1. อัตราการใช้พลังงาน (กำลังไฟ) ของแอร์: ข้อมูลนี้จะระบุเป็นหน่วยวัตต์ (Watt) คุณจะพบข้อมูลนี้บนฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ซึ่งติดอยู่กับตัวเครื่องแอร์ หรือในคู่มือการใช้งาน บางครั้งอาจระบุเป็นกิโลวัตต์ (kW) ซึ่ง 1 kW เท่ากับ 1,000 วัตต์ ควรสังเกตว่ากำลังไฟที่ระบุเป็นกำลังไฟสูงสุด การใช้งานจริงอาจต่ำกว่านี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าอุณหภูมิและโหมดการทำงาน

  2. อัตราค่าไฟฟ้าต่อหน่วย: อัตราค่าไฟฟ้าจะแตกต่างกันไปตามพื้นที่และช่วงเวลา สามารถตรวจสอบได้จากใบแจ้งค่าไฟฟ้าหรือเว็บไซต์ของการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายในพื้นที่ของคุณ

วิธีคำนวณค่าไฟฟ้าต่อชั่วโมง:

  1. หาค่ากำลังไฟ (เป็นวัตต์): สมมุติว่าแอร์ของคุณมีกำลังไฟ 1,800 วัตต์ (1.8 kW)

  2. หาค่าไฟฟ้าต่อหน่วย (บาท/หน่วย): สมมุติว่าค่าไฟฟ้าต่อหน่วยของคุณอยู่ที่ 4 บาท/หน่วย

  3. คำนวณค่าไฟฟ้าต่อชั่วโมง: นำกำลังไฟ (วัตต์) หารด้วย 1,000 เพื่อแปลงเป็นกิโลวัตต์ จากนั้นคูณด้วยอัตราค่าไฟฟ้าต่อหน่วย และคูณด้วยจำนวนชั่วโมงที่ใช้งาน (ในที่นี้คือ 1 ชั่วโมง)

    สูตร: (กำลังไฟ (วัตต์) / 1000) x อัตราค่าไฟฟ้าต่อหน่วย x จำนวนชั่วโมงใช้งาน

    ตัวอย่าง: (1800 / 1000) x 4 บาท/หน่วย x 1 ชั่วโมง = 7.2 บาท

ดังนั้น ในตัวอย่างนี้ แอร์ 18,000 BTU ที่มีกำลังไฟ 1,800 วัตต์ จะกินไฟประมาณ 7.2 บาทต่อชั่วโมง หากค่าไฟฟ้าต่อหน่วยสูงขึ้นหรือกำลังไฟของแอร์สูงกว่านี้ ค่าใช้จ่ายต่อชั่วโมงก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ข้อควรระวัง:

  • นี่เป็นเพียงการคำนวณโดยประมาณ ค่าใช้จ่ายจริงอาจแตกต่างกันไปเล็กน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อุณหภูมิห้อง ความชื้น และการใช้งานของฟังก์ชั่นเสริมต่างๆ ของแอร์
  • การใช้งานแอร์อย่างประหยัด เช่น การตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม การปิดแอร์เมื่อไม่อยู่ในห้อง และการบำรุงรักษาแอร์อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดค่าไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การคำนวณง่ายๆ นี้จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการใช้แอร์ได้อย่างประหยัดมากขึ้น และเลือกขนาดแอร์ที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ อย่าลืมตรวจสอบฉลากประหยัดไฟของแอร์ของคุณเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำที่สุด!