โหมดปิดเสียง iPhone แก้ยังไง

7 การดู

หากต้องการปิดเสียง iPhone รุ่นที่มีปุ่ม Action: ไปที่การตั้งค่า > เสียงและสัมผัส > เปิดหรือปิดโหมดปิดเสียง คุณยังสามารถกำหนดค่าปุ่ม Action เพื่อเปิดหรือปิดโหมดปิดเสียงได้

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

โหมดปิดเสียง iPhone: แก้ปัญหาและเคล็ดลับที่คุณอาจยังไม่รู้

โหมดปิดเสียงบน iPhone เป็นฟีเจอร์ที่สำคัญ ช่วยให้คุณควบคุมการแจ้งเตือนและเสียงเรียกเข้าได้อย่างสะดวกสบาย เหมาะสำหรับช่วงเวลาที่ต้องการสมาธิ หรือในสถานที่ที่ต้องการความสงบ แต่บางครั้งการเปิด-ปิด หรือการจัดการโหมดปิดเสียงก็อาจสร้างความสับสน หรือเกิดปัญหาที่ทำให้คุณพลาดสายสำคัญได้ บทความนี้จะเจาะลึกวิธีการแก้ปัญหาโหมดปิดเสียง iPhone และเคล็ดลับที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

วิธีพื้นฐาน: ตรวจสอบปุ่มสวิตช์ (สำหรับรุ่นเก่า)

สำหรับ iPhone รุ่นเก่าที่มีปุ่มสวิตช์ปิดเสียงด้านข้าง (อยู่เหนือปุ่มปรับระดับเสียง) ให้ตรวจสอบดังนี้:

  • ปุ่มสวิตช์สีส้ม: หากคุณเห็นแถบสีส้มแสดงอยู่ นั่นหมายความว่า iPhone ของคุณอยู่ในโหมดปิดเสียงแล้ว เลื่อนสวิตช์กลับไปด้านตรงข้ามเพื่อเปิดเสียง
  • ตรวจสอบความเสียหาย: ตรวจสอบว่าปุ่มสวิตช์ไม่เสียหาย หรือมีสิ่งสกปรกติดขัด หากปุ่มโยกเยก หรือไม่ตอบสนอง อาจจำเป็นต้องส่งซ่อม

วิธีสำหรับ iPhone 15 Pro และ Pro Max: ใช้ปุ่ม Action

สำหรับ iPhone 15 Pro และ Pro Max ที่มาพร้อมปุ่ม Action สามารถปรับแต่งการทำงานของปุ่มนี้ได้ หากคุณตั้งค่าให้ปุ่ม Action ควบคุมโหมดปิดเสียง:

  1. กดปุ่ม Action ค้างไว้: กดปุ่ม Action ค้างไว้เพื่อเปลี่ยนสถานะโหมดปิดเสียง คุณจะเห็นการแจ้งเตือนบนหน้าจอว่าเปิดหรือปิดเสียงแล้ว
  2. ตรวจสอบการตั้งค่า: หากปุ่ม Action ไม่ทำงานตามที่คาดหวัง ให้ตรวจสอบการตั้งค่าดังนี้:
    • ไปที่ การตั้งค่า (Settings)
    • แตะที่ ปุ่ม Action (Action Button)
    • ตรวจสอบว่าเลือก โหมดปิดเสียง (Silent Mode) เป็นตัวเลือกที่ต้องการ หากไม่ใช่ ให้เปลี่ยนเป็น “โหมดปิดเสียง”

วิธีทั่วไป: ตรวจสอบการตั้งค่าเสียงและการสั่น

ไม่ว่าคุณจะใช้ iPhone รุ่นใด การตรวจสอบการตั้งค่าเสียงและการสั่นเป็นสิ่งสำคัญ:

  1. ตรวจสอบ “ห้ามรบกวน” (Do Not Disturb):

    • ปัดลงจากมุมบนขวาของหน้าจอ (หรือปัดขึ้นจากด้านล่างของหน้าจอในรุ่นเก่า) เพื่อเปิด ศูนย์ควบคุม (Control Center)
    • ตรวจสอบว่าไอคอนรูปพระจันทร์เสี้ยว (ห้ามรบกวน) ไม่ได้เปิดใช้งานอยู่ หากเปิดอยู่ ให้แตะเพื่อปิด
    • ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > ห้ามรบกวน (Do Not Disturb) และตรวจสอบว่าไม่ได้ตั้งค่าตารางเวลา หรือตัวเลือกที่ทำให้ iPhone เข้าสู่โหมดห้ามรบกวนโดยอัตโนมัติ
  2. ตรวจสอบการตั้งค่าเสียงและสัมผัส (Sounds & Haptics):

    • ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > เสียงและสัมผัส (Sounds & Haptics)
    • ตรวจสอบว่าแถบเลื่อน เสียงเรียกเข้าและการเตือน (Ringer and Alerts) ถูกปรับระดับเสียงให้ดังพอ หากแถบเลื่อนถูกปรับไว้ต่ำสุด อาจทำให้คุณไม่ได้ยินเสียง
    • ตรวจสอบการตั้งค่า สั่นเมื่อปิดเสียง (Vibrate on Silent) และ สั่นเมื่อเปิดเสียง (Vibrate on Ring) หากคุณปิดทั้งสองตัวเลือกนี้ คุณจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนใดๆ ไม่ว่า iPhone จะอยู่ในโหมดปิดเสียงหรือไม่

เคล็ดลับเพิ่มเติมและสิ่งที่ควรระวัง:

  • ตรวจสอบการตั้งค่าสำหรับแต่ละแอป: บางแอปอาจมีการตั้งค่าการแจ้งเตือนของตัวเอง ซึ่งอาจOverrideการตั้งค่าระบบ ตรวจสอบการตั้งค่าการแจ้งเตือนภายในแอปที่คุณต้องการรับการแจ้งเตือน
  • Restart iPhone: วิธีแก้ปัญหาแบบคลาสสิกที่มักได้ผลเสมอ ลองรีสตาร์ท iPhone ของคุณ เพื่อเคลียร์ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจเกิดขึ้น
  • อัปเดต iOS: ตรวจสอบว่าคุณใช้ iOS เวอร์ชั่นล่าสุดเสมอ การอัปเดต iOS มักจะมาพร้อมกับการแก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อการทำงานของโหมดปิดเสียง
  • ปัญหาฮาร์ดแวร์: หากคุณลองทุกวิธีแล้วยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ อาจเป็นไปได้ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ ควรติดต่อ Apple Support หรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตเพื่อตรวจสอบ

สรุป

การจัดการโหมดปิดเสียงบน iPhone ไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณเข้าใจกลไกการทำงานและวิธีการตรวจสอบการตั้งค่าต่างๆ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณสามารถแก้ไขปัญหาโหมดปิดเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่พลาดการติดต่อที่สำคัญอีกต่อไป