ใช้คำสั่งลิ้งค์เวลากดแล้ว web browser เปิดแท็บใหม่ต้องใช้คำสั่งใด

3 การดู

การเปิดแท็บใหม่ในเว็บเบราว์เซอร์ด้วยคีย์บอร์ดนั้นง่ายและรวดเร็ว เพียงกดปุ่ม Ctrl + T พร้อมกัน แถบใหม่จะเปิดขึ้นทันที ช่วยให้คุณเรียกดูเว็บไซต์ต่างๆ ได้อย่างสะดวกและต่อเนื่อง โดยไม่ต้องใช้เมาส์คลิกให้เสียเวลา

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เจาะลึก: เปิดแท็บใหม่ในเว็บเบราว์เซอร์ด้วยลิงก์ – สั่งการให้เปิดในแท็บใหม่ได้อย่างไร?

ทุกคนทราบดีว่าการเปิดแท็บใหม่ในเว็บเบราว์เซอร์นั้นสำคัญแค่ไหนในการท่องโลกอินเทอร์เน็ตอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการเปรียบเทียบข้อมูลจากหลายแหล่ง การอ่านบทความต่อเนื่อง หรือแม้แต่การทำงานวิจัย การเปิดแท็บใหม่ช่วยให้เราจัดการข้อมูลได้อย่างเป็นระบบและไม่พลาดข้อมูลสำคัญ

และแน่นอนว่าการใช้คีย์บอร์ดลัด Ctrl + T (Command + T สำหรับ macOS) เป็นวิธีที่รวดเร็วและสะดวกมากในการเปิดแท็บใหม่โดยตรง แต่ถ้าเราต้องการให้ลิงก์ที่อยู่ในหน้าเว็บเปิดในแท็บใหม่โดยอัตโนมัติล่ะ จะต้องทำอย่างไร? คำตอบอยู่ที่การใช้ target="_blank" ในโค้ด HTML ของลิงก์นั้นเอง

target="_blank": มนต์ขลังแห่งการเปิดแท็บใหม่

เมื่อเราสร้างลิงก์ใน HTML ด้วยแท็ก <a href="...">, เราสามารถเพิ่มแอตทริบิวต์ target="_blank" เข้าไปได้ เพื่อสั่งให้เว็บเบราว์เซอร์เปิดลิงก์นั้นในแท็บใหม่เสมอ โค้ด HTML จะมีลักษณะดังนี้:

<a href="https://www.example.com" target="_blank">เยี่ยมชมเว็บไซต์ Example</a>

เมื่อผู้ใช้คลิกที่ลิงก์นี้ เว็บเบราว์เซอร์จะเปิด https://www.example.com ในแท็บใหม่ โดยที่หน้าเว็บปัจจุบันยังคงเปิดอยู่ ไม่ถูกแทนที่

ทำไมต้องใช้ target="_blank"?

การใช้ target="_blank" มีประโยชน์หลายประการ:

  • รักษาประสบการณ์การใช้งาน: ผู้ใช้ไม่ต้องออกจากหน้าเว็บปัจจุบันเพื่อดูเนื้อหาที่ลิงก์ไป ทำให้การใช้งานต่อเนื่องและไม่สะดุด
  • เหมาะสำหรับลิงก์ภายนอก: หากลิงก์นำผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์อื่น การเปิดในแท็บใหม่จะช่วยให้ผู้ใช้ยังคงเข้าถึงเว็บไซต์ของเราได้ง่าย
  • ควบคุมพฤติกรรมลิงก์: เราสามารถกำหนดได้อย่างชัดเจนว่าลิงก์นั้นจะเปิดในแท็บใหม่เสมอ ไม่ว่าผู้ใช้จะตั้งค่าเบราว์เซอร์อย่างไร

ข้อควรระวังในการใช้งาน target="_blank":

ถึงแม้ว่า target="_blank" จะมีประโยชน์ แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการที่ควรคำนึงถึง:

  • Security Risks: การใช้ target="_blank" อาจทำให้เว็บไซต์ของเราเสี่ยงต่อการถูกโจมตีแบบ “tabnabbing” ซึ่งเป็นเทคนิคที่เว็บไซต์ปลายทางสามารถควบคุมหน้าต่างหรือแท็บที่เปิดจากเว็บไซต์ของเราได้ เพื่อป้องกันปัญหานี้ เราควรเพิ่ม rel="noopener noreferrer" ลงในแท็กลิงก์ด้วย:

    <a href="https://www.example.com" target="_blank" rel="noopener noreferrer">เยี่ยมชมเว็บไซต์ Example</a>

    rel="noopener" ป้องกันไม่ให้เว็บไซต์ปลายทางเข้าถึง window.opener ซึ่งเป็นอ็อบเจ็กต์ที่อนุญาตให้เว็บไซต์ปลายทางควบคุมหน้าต่างที่เปิดจากเว็บไซต์ของเรา ส่วน rel="noreferrer" ป้องกันไม่ให้ส่งข้อมูล Referer ไปยังเว็บไซต์ปลายทาง

  • ประสบการณ์ผู้ใช้: บางครั้งการเปิดแท็บใหม่โดยอัตโนมัติอาจสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้ ดังนั้นควรใช้ target="_blank" เมื่อจำเป็นเท่านั้น และแจ้งให้ผู้ใช้ทราบว่าลิงก์จะเปิดในแท็บใหม่

สรุป:

การใช้ target="_blank" เป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการสั่งให้ลิงก์เปิดในแท็บใหม่ในเว็บเบราว์เซอร์ อย่างไรก็ตาม ควรใช้อย่างระมัดระวังและคำนึงถึงความปลอดภัยและประสบการณ์ของผู้ใช้ เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการใช้ target="_blank" ในการจัดการลิงก์ในเว็บไซต์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น!