ไฟล์ขยะในคอม อยู่ตรงไหน

2 การดู

ล้างไฟล์ขยะในคอมพิวเตอร์ง่ายๆ! ไปที่ Settings > System > Storage จากนั้นมองหาส่วน Temporary files คลิกเข้าไปเพื่อดูรายละเอียดไฟล์ขยะที่กินพื้นที่ แล้วเลือกไฟล์ที่ไม่ต้องการเพื่อลบทิ้ง เพิ่มพื้นที่ว่างให้คอมพิวเตอร์คุณทำงานลื่นไหลยิ่งขึ้น

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เปิดโปง! ที่ซ่อนและวิธีจัดการ “ไฟล์ขยะ” ตัวร้ายกินพื้นที่ในคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานไปนานๆ มักจะประสบปัญหาพื้นที่เก็บข้อมูลเต็มอย่างไม่ทราบสาเหตุ อาการเครื่องอืด หน่วง ช้า ก็เริ่มถามหา สาเหตุหลักๆ ส่วนหนึ่งมาจาก “ไฟล์ขยะ” ที่สะสมอยู่ภายในเครื่องโดยที่เราไม่รู้ตัว แล้วเจ้าไฟล์ขยะตัวร้ายนี้มันซ่อนตัวอยู่ที่ไหนกันนะ? และเราจะกำจัดมันได้อย่างไร?

ไฟล์ขยะคืออะไร ทำไมต้องกำจัด?

ไฟล์ขยะ (Temporary Files) คือไฟล์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยระบบปฏิบัติการหรือโปรแกรมต่างๆ เพื่อใช้ในการทำงานชั่วคราว เช่น ไฟล์สำรองระหว่างการติดตั้งโปรแกรม, แคชของเบราว์เซอร์, ไฟล์ที่เหลือจากการอัปเดตระบบ, หรือไฟล์ล็อกต่างๆ ซึ่งโดยปกติไฟล์เหล่านี้ควรจะถูกลบทิ้งเมื่อกระบวนการทำงานเสร็จสิ้น แต่ในบางครั้งไฟล์เหล่านี้ก็ยังคงตกค้างอยู่ในเครื่อง ทำให้กินพื้นที่เก็บข้อมูลโดยใช่เหตุ และอาจส่งผลให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลงได้

ไขความลับ! ที่ซ่อนของไฟล์ขยะในคอมพิวเตอร์

แม้ว่าวิธีการเข้าไปจัดการไฟล์ขยะโดยตรงจะค่อนข้างตรงไปตรงมา แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าไฟล์ขยะนั้นมีแหล่งที่ซ่อนตัวอยู่หลายแห่งในคอมพิวเตอร์ของคุณ นอกเหนือจากวิธีที่แนะนำไว้เบื้องต้น (Settings > System > Storage > Temporary files) เรามาดูกันว่ายังมีที่ไหนอีกบ้าง:

  • โฟลเดอร์ Temp: นี่คือแหล่งรวมไฟล์ขยะยอดนิยมที่ถูกสร้างขึ้นโดยโปรแกรมต่างๆ คุณสามารถเข้าถึงโฟลเดอร์นี้ได้โดยการพิมพ์ %temp% ในช่อง Search ของ Windows แล้วกด Enter
  • โฟลเดอร์ Prefetch: โฟลเดอร์นี้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรมที่ใช้งานบ่อย เพื่อให้โปรแกรมเหล่านั้นเปิดตัวได้เร็วขึ้น แต่บางครั้งไฟล์ที่อยู่ในโฟลเดอร์นี้ก็อาจกลายเป็นไฟล์ขยะที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว คุณสามารถเข้าถึงได้โดยพิมพ์ Prefetch ในช่อง Search แล้วกด Enter (คุณอาจต้องได้รับอนุญาตจากผู้ดูแลระบบเพื่อเข้าถึงโฟลเดอร์นี้)
  • Recycle Bin: หลายคนมองข้าม Recycle Bin หรือถังขยะไป แต่ไฟล์ที่ถูกลบไปนั้นยังคงอยู่ในถังขยะ และยังคงกินพื้นที่เก็บข้อมูลอยู่ ดังนั้นอย่าลืมเข้าไปเคลียร์ Recycle Bin เป็นประจำ
  • Web Browser Cache: เว็บเบราว์เซอร์ที่เราใช้งานกันทุกวันจะทำการเก็บแคช (Cache) เพื่อให้การโหลดหน้าเว็บต่างๆ รวดเร็วขึ้น แต่แคชที่สะสมไว้นานๆ ก็สามารถกินพื้นที่เก็บข้อมูลได้มากเช่นกัน คุณสามารถเคลียร์แคชได้จากเมนูการตั้งค่าของแต่ละเบราว์เซอร์

กำจัดไฟล์ขยะอย่างมืออาชีพ: เคล็ดลับที่มากกว่าการลบ

นอกจากการเข้าไปลบไฟล์ขยะในโฟลเดอร์ต่างๆ แล้ว ยังมีเคล็ดลับอื่นๆ ที่จะช่วยให้การจัดการไฟล์ขยะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น:

  • Disk Cleanup: เครื่องมือ Disk Cleanup ที่มีมากับ Windows เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการค้นหาและลบไฟล์ขยะต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย คุณสามารถเข้าถึงได้โดยการพิมพ์ Disk Cleanup ในช่อง Search แล้วเลือกไดรฟ์ที่ต้องการทำความสะอาด
  • โปรแกรมทำความสะอาดคอมพิวเตอร์ (CCleaner): มีโปรแกรมมากมายที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยในการทำความสะอาดคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ โปรแกรมเหล่านี้จะช่วยค้นหาและลบไฟล์ขยะได้อย่างละเอียดและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรเลือกใช้โปรแกรมที่มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัย
  • ตั้งค่าการลบไฟล์ชั่วคราวอัตโนมัติ: ใน Windows 10 และ 11 คุณสามารถตั้งค่าให้ระบบทำการลบไฟล์ชั่วคราวโดยอัตโนมัติได้ โดยเข้าไปที่ Settings > System > Storage > Storage Sense และเปิดใช้งาน Storage Sense
  • ดูแลรักษาคอมพิวเตอร์อย่างสม่ำเสมอ: การอัปเดตระบบปฏิบัติการและโปรแกรมต่างๆ ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ จะช่วยลดโอกาสในการเกิดไฟล์ขยะได้

สรุป

การจัดการไฟล์ขยะเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์ของคุณทำงานได้อย่างลื่นไหลและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การรู้จักที่ซ่อนของไฟล์ขยะ และรู้วิธีจัดการกับมัน จะช่วยให้คุณควบคุมพื้นที่เก็บข้อมูลในคอมพิวเตอร์ได้อย่างเต็มที่ และทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพไปอีกนาน