IOS 17.2 แบตไหลไหม

3 การดู

อัปเดต iOS แล้วแบตไหลเร็ว? ลองรีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่าย หรือปิดแอปที่ทำงานเบื้องหลังที่ไม่จำเป็น หากยังไม่ดีขึ้น ตรวจสอบการใช้งานแบตเตอรี่ใน การตั้งค่า เพื่อหาแอปที่กินแบตมากเกินไป และพิจารณาติดต่อฝ่ายสนับสนุน Apple หากปัญหายังคงอยู่

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

iOS 17.2: แบตไหลจริงหรือแค่คิดไปเอง? วิธีรับมือเมื่อแบตเตอรี่ iPhone หมดเร็วกว่าที่เคย

หลังจาก Apple ปล่อยอัปเดต iOS 17.2 ออกมา สิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้งาน iPhone หลายคนเริ่มสังเกตคือ แบตเตอรี่ดูเหมือนจะหมดเร็วกว่าปกติ คำถามที่ตามมาคือ “iOS 17.2 แบตไหลจริงไหม?” และถ้าเป็นจริง เราจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร?

ก่อนอื่น เราต้องทำความเข้าใจว่าการอัปเดตระบบปฏิบัติการครั้งใหญ่อย่าง iOS 17.2 นั้น มักจะมาพร้อมกับการทำงานเบื้องหลังที่เพิ่มขึ้น เช่น การจัดทำดัชนีใหม่สำหรับ Spotlight Search, การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของแอปพลิเคชัน และการปรับตัวเข้ากับฟีเจอร์ใหม่ๆ ทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลกระทบต่อการใช้พลังงานของแบตเตอรี่ได้

ทำไมแบตเตอรี่ถึงดูเหมือนหมดเร็วกว่าเดิมหลังอัปเดต iOS 17.2?

  • การทำงานเบื้องหลังที่เพิ่มขึ้น: ดังที่กล่าวไปข้างต้น ระบบอาจใช้เวลาสักพักในการปรับตัวหลังจากการอัปเดต ซึ่งอาจทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วกว่าปกติในช่วงแรก
  • การปรับปรุงฟีเจอร์ใหม่: ฟีเจอร์ใหม่ๆ ใน iOS 17.2 อาจมีการใช้งานทรัพยากรมากขึ้น เช่น แอป Journal ที่อาจมีการบันทึกข้อมูลอยู่เบื้องหลังอย่างต่อเนื่อง หรือการปรับปรุงความสามารถของกล้อง
  • ความเข้ากันได้ของแอป: บางแอปอาจยังไม่ได้รับการปรับปรุงให้เข้ากับ iOS 17.2 อย่างเต็มที่ ทำให้เกิดปัญหาการทำงานที่ไม่ราบรื่นและกินแบตเตอรี่มากกว่าเดิม
  • การใช้งานส่วนบุคคล: พฤติกรรมการใช้งาน iPhone ของแต่ละคนแตกต่างกัน การใช้งานแอปหนักๆ เช่น เกม หรือการดูวิดีโอต่อเนื่องเป็นเวลานาน ย่อมส่งผลให้แบตเตอรี่หมดเร็วกว่าการใช้งานทั่วไป

เมื่อแบตเตอรี่หมดเร็วกว่าปกติ จะแก้ไขอย่างไร?

หากคุณรู้สึกว่าแบตเตอรี่ iPhone ของคุณหมดเร็วกว่าปกติหลังจากการอัปเดต iOS 17.2 ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อแก้ไขปัญหา:

  1. รอให้ระบบปรับตัว: ในช่วง 2-3 วันแรกหลังจากการอัปเดต ให้สังเกตการใช้งานแบตเตอรี่อย่างใกล้ชิด ระบบอาจใช้เวลาในการปรับตัวและประสิทธิภาพการทำงานอาจดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
  2. รีสตาร์ท iPhone: การรีสตาร์ทเครื่องง่ายๆ จะช่วยเคลียร์หน่วยความจำและปิดแอปพลิเคชันที่อาจทำงานค้างอยู่เบื้องหลัง
  3. ตรวจสอบการใช้งานแบตเตอรี่: เข้าไปที่ การตั้งค่า (Settings) > แบตเตอรี่ (Battery) เพื่อดูว่าแอปพลิเคชันใดที่กินแบตเตอรี่มากที่สุด หากพบแอปที่ใช้พลังงานผิดปกติ ลองปิดการทำงานเบื้องหลังของแอปนั้น หรือลบแอปทิ้งแล้วติดตั้งใหม่
  4. ปิดแอปที่ไม่จำเป็น: ปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งานเพื่อลดการทำงานเบื้องหลัง
  5. ปรับการตั้งค่าแบตเตอรี่:
    • เปิดโหมดประหยัดพลังงาน (Low Power Mode): จะช่วยลดการใช้พลังงานของ iPhone โดยจำกัดการทำงานบางอย่าง
    • ลดความสว่างหน้าจอ: ความสว่างหน้าจอเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการใช้พลังงานของแบตเตอรี่
    • ปิดการรีเฟรชแอปพื้นหลัง (Background App Refresh): จำกัดการรีเฟรชข้อมูลของแอปในพื้นหลัง
    • ปิดบริการหาตำแหน่ง (Location Services): แอปบางตัวอาจขออนุญาตเข้าถึงตำแหน่งของคุณอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองพลังงาน
  6. รีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่าย: หากคุณประสบปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือ Cellular ให้ลองรีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่าย โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า (Settings) > ทั่วไป (General) > ถ่ายโอนหรือรีเซ็ต iPhone (Transfer or Reset iPhone) > รีเซ็ต (Reset) > รีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่าย (Reset Network Settings)
  7. ตรวจสอบ Health แบตเตอรี่: เข้าไปที่ การตั้งค่า (Settings) > แบตเตอรี่ (Battery) > สุขภาพแบตเตอรี่และการชาร์จ (Battery Health & Charging) เพื่อตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ หากความจุสูงสุดของแบตเตอรี่ลดลงอย่างมาก อาจเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้ว
  8. อัปเดตแอปพลิเคชัน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแอปพลิเคชันทั้งหมดของคุณเป็นเวอร์ชันล่าสุด เพื่อให้แน่ใจว่ามีความเข้ากันได้กับ iOS 17.2 และได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน
  9. ติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Apple: หากลองทำตามขั้นตอนทั้งหมดข้างต้นแล้ว ปัญหายังคงอยู่ อาจเป็นไปได้ว่ามีปัญหาทางเทคนิคที่ซับซ้อนกว่านั้น ควรติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Apple เพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม

สรุป:

การอัปเดต iOS 17.2 อาจส่งผลให้แบตเตอรี่ iPhone หมดเร็วกว่าปกติได้บ้าง แต่โดยทั่วไปแล้ว ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการปรับการตั้งค่าและการใช้งาน iPhone ของคุณ หากปัญหายังคงอยู่ ควรตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่และติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Apple เพื่อขอความช่วยเหลือ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็วหลังจากการอัปเดต iOS 17.2 นะครับ!