IPad Air กับ GEN 10 ต่างกันยังไง

iPad Air เทียบกับ iPad Gen 10: ความแตกต่างหลัก

iPad Air และ iPad Gen 10 เป็นแท็บเล็ตยอดนิยมจาก Apple ที่มีฟีเจอร์มากมายที่คล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างที่สำคัญบางประการที่ผู้ซื้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ

ดีไซน์

iPad Air มีดีไซน์ที่หรูหรากว่าเล็กน้อย โดยมีตัวเครื่องที่บางกว่า (6.1 มม. เทียบกับ 7 มม.) และเบากว่า (461 กรัม เทียบกับ 487 กรัม) นอกจากนี้ iPad Air ยังมีขอบจอบางกว่าและหน้าจอที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย (10.9 นิ้ว เทียบกับ 10.2 นิ้ว)

จอแสดงผล

ทั้ง iPad Air และ iPad Gen 10 มีจอแสดงผล Retina ที่มีสีสันสดใสและมุมมองที่กว้าง แต่ iPad Air ได้เปรียบเล็กน้อยด้วยการรองรับ True Tone ซึ่งปรับอุณหภูมิจอแสดงผลโดยอัตโนมัติเพื่อให้ตรงกับสภาพแสงโดยรอบ

หน่วยประมวลผล

ทั้ง iPad Air และ iPad Gen 10 ใช้ชิป A14 Bionic ที่ทรงพลัง ซึ่งให้ประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาม iPad Air มี RAM มากกว่า (4GB เทียบกับ 3GB) ซึ่งอาจให้ประโยชน์เล็กน้อยในการทำงานหลายอย่างและการเล่นเกม

กล้อง

iPad Air มีกล้องที่ดีกว่าเล็กน้อย โดยมีกล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล (เทียบกับ 8 ล้านพิกเซลใน Gen 10) และกล้องหน้า 7 ล้านพิกเซล (เทียบกับ 1.2 ล้านพิกเซล) นอกจากนี้ iPad Air ยังรองรับวิดีโอ 4K ในขณะที่ Gen 10 รองรับเฉพาะ 1080p

การเชื่อมต่อ

ทั้ง iPad Air และ iPad Gen 10 มี Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.0 แต่ iPad Gen 10 มีข้อได้เปรียบที่รุ่น Cellular รองรับ 5G ในขณะที่ Air รองรับแค่ 4G เท่านั้น สิ่งนี้มีความสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงนอกสถานที่

อายุแบตเตอรี่

iPad Air มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานกว่าเล็กน้อย โดยอยู่ได้นานถึง 10 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (เทียบกับ 9 ชั่วโมงใน Gen 10)

ราคา

ราคาของ iPad Air และ iPad Gen 10 แตกต่างกันอย่างมาก โดย Air มีราคาแพงกว่าอย่างเห็นได้ชัด (จาก 18,400 บาท เป็นต้นไป เทียบกับ 14,900 บาท เป็นต้นไป)

สรุป

iPad Air และ iPad Gen 10 เป็นแท็บเล็ตที่ยอดเยี่ยมทั้งคู่ โดยมีจุดเด่นและข้อเสียที่แตกต่างกัน ผู้ซื้อที่กำลังมองหาแท็บเล็ตที่บางและเบากว่า พร้อมหน้าจอที่ใหญ่กว่าและกล้องที่ดีกว่าควรพิจารณา iPad Air อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการประหยัดเงินและยังคงต้องการแท็บเล็ตประสิทธิภาพสูงควรพิจารณา iPad Gen 10 ซึ่งให้คุณสมบัติที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน