PIR ทำงานยังไง

เซ็นเซอร์ PIR (Passive Infrared) ทำงานบนหลักการของการตรวจจับความแตกต่างของรังสีอินฟราเรดที่ปล่อยออกมาจากวัตถุ ไม่ใช่การแผ่รังสีอินฟราเรดเอง เซ็นเซอร์เหล่านี้ประกอบด้วยสองส่วนหลัก คือ เซ็นเซอร์รับ (detector) สองตัวที่วางอยู่ห่างกันเล็กน้อย และวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่วิเคราะห์ความแตกต่างของรังสีอินฟราเรดที่รับได้

เมื่อไม่มีวัตถุเคลื่อนไหว รังสีอินฟราเรดที่ปล่อยออกมาจากสิ่งแวดล้อมและวัตถุต่างๆรอบๆจะถูกตรวจจับโดยทั้งสองเซ็นเซอร์ ส่งผลให้ระดับรังสีอินฟราเรดที่ตกกระทบแต่ละเซ็นเซอร์เท่ากันหรือใกล้เคียงกัน วงจรอิเล็กทรอนิกส์จึงตรวจจับความแตกต่างได้น้อยและไม่ส่งสัญญาณใดๆ

แต่เมื่อมีวัตถุเคลื่อนผ่านระหว่างเซ็นเซอร์ทั้งสอง รังสีอินฟราเรดที่ปล่อยออกมาจากวัตถุจะกระทบเซ็นเซอร์ทั้งสองไม่เท่ากัน เนื่องจากตำแหน่งของวัตถุเปลี่ยนแปลงไป เซ็นเซอร์หนึ่งจะรับรังสีอินฟราเรดเพิ่มขึ้น ส่วนอีกเซ็นเซอร์จะรับลดลง ความแตกต่างของระดับรังสีอินฟราเรดนี้ถูกตรวจจับโดยวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะประมวลผลและส่งสัญญาณแสดงการเคลื่อนไหวออกมา

หลักการทำงานนี้แตกต่างจากเซ็นเซอร์ที่ปล่อยรังสีอินฟราเรดออกไปเอง (Active Infrared) เซ็นเซอร์ PIR ใช้รังสีอินฟราเรดที่ปล่อยออกมาตามธรรมชาติจากสิ่งแวดล้อม ทำให้มีความแม่นยำและประหยัดพลังงานมากกว่า นอกจากนี้ ยังสามารถปรับความไวของเซ็นเซอร์ได้ตามความต้องการใช้งาน เช่น ปรับค่าเพื่อให้ตรวจจับการเคลื่อนไหวของวัตถุขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ หรือปรับให้ตรวจจับการเคลื่อนไหวในช่วงระยะที่กำหนด

โดยสรุป เซ็นเซอร์ PIR ตรวจจับการเคลื่อนไหวด้วยการวัดความแตกต่างของระดับรังสีอินฟราเรดที่ตกกระทบเซ็นเซอร์สองตัว ความแตกต่างนี้เกิดจากการเคลื่อนที่ของวัตถุที่เปลี่ยนตำแหน่งระหว่างเซ็นเซอร์ ระบบจึงสามารถตรวจจับและตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีความยืดหยุ่นในการปรับความไวของการตรวจจับได้อีกด้วย