Youtube error 400 แก้ยังไง

3 การดู

หากพบรหัสข้อผิดพลาด 400 Bad Request บน YouTube ลองตรวจสอบ URL อีกครั้งและตรวจสอบว่าถูกต้องและไม่ซ้ำกัน ให้รีเฟรชหน้าและตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณ หากยังไม่ได้ผล ให้ลองล้างคุกกี้และแคชของเบราว์เซอร์ รวมถึงแคช DNS ด้วย

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

YouTube ขึ้น Error 400: แก้ไขอย่างไรให้ดูคลิปต่อได้อย่างลื่นไหล

พบเจอข้อความ “Error 400 Bad Request” บน YouTube แล้วรู้สึกหงุดหงิดใช่ไหมครับ? ข้อผิดพลาดนี้มักเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน ทำให้เราพลาดชมคลิปที่อยากดู แต่ไม่ต้องกังวลไป บทความนี้จะแนะนำวิธีการแก้ไขปัญหา Error 400 บน YouTube อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ให้คุณกลับไปรับชมวิดีโอได้อย่างราบรื่น

สาเหตุของ Error 400 บน YouTube

โดยทั่วไป Error 400 บน YouTube เกิดจากความผิดพลาดในการสื่อสารระหว่างเบราว์เซอร์ของคุณกับเซิร์ฟเวอร์ของ YouTube อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น URL ที่ไม่ถูกต้อง การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ไม่เสถียร หรือปัญหาเกี่ยวกับแคชและคุกกี้ในเบราว์เซอร์ของคุณ

วิธีการแก้ไข Error 400 บน YouTube

ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้ โดยเริ่มจากวิธีที่ง่ายที่สุดก่อน:

  1. ตรวจสอบ URL อีกครั้ง: มั่นใจหรือไม่ว่า URL ของวิดีโอที่คุณพยายามเข้าชมนั้นถูกต้อง ลองคัดลอก URL และวางลงในแถบที่อยู่ของเบราว์เซอร์ใหม่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ผิดพลาด

  2. รีเฟรชหน้าเว็บ: การรีเฟรชหน้าเว็บ (กดปุ่ม F5 หรือไอคอนรีเฟรช) อาจแก้ปัญหาเล็กๆน้อยๆได้ ลองทำดูก่อนที่จะไปยังขั้นตอนถัดไป

  3. ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต: ปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ไม่เสถียร เช่น สัญญาณอ่อน หรือการเชื่อมต่อขาดหายเป็นต้น เป็นสาเหตุที่พบบ่อย ลองตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณ ลองเชื่อมต่อกับเครือข่ายอื่นหรือรีสตาร์ทเราเตอร์ดู

  4. ล้างแคชและคุกกี้ของเบราว์เซอร์: แคชและคุกกี้ที่เก่าหรือเสียหายอาจทำให้เกิดความขัดข้อง การล้างแคชและคุกกี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญ วิธีการล้างแคชและคุกกี้แตกต่างกันไปในแต่ละเบราว์เซอร์ ลองค้นหาคำแนะนำเฉพาะสำหรับเบราว์เซอร์ที่คุณใช้งานอยู่บน Google

  5. ล้างแคช DNS: DNS (Domain Name System) เป็นระบบที่แปลชื่อโดเมน (เช่น youtube.com) ให้เป็นที่อยู่ IP แคช DNS ที่เก่าอาจทำให้เกิดปัญหา การล้างแคช DNS อาจช่วยได้ วิธีการล้างแคช DNS ขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการที่คุณใช้ เช่น Windows MacOS หรือ Linux

  6. ลองใช้เบราว์เซอร์อื่น: หากวิธีการข้างต้นไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ลองเปลี่ยนไปใช้เบราว์เซอร์อื่นดู เช่น หากคุณใช้ Chrome อยู่ ลองเปลี่ยนมาใช้ Firefox หรือ Edge ดู เพื่อดูว่าปัญหาเกิดจากเบราว์เซอร์หรือไม่

  7. ปิดใช้งานส่วนขยายเบราว์เซอร์: ส่วนขยายบางตัวอาจรบกวนการทำงานของ YouTube ลองปิดการใช้งานส่วนขยายเบราว์เซอร์ชั่วคราว แล้วลองเข้าชมวิดีโออีกครั้ง

  8. ติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ YouTube: หากลองทำทุกวิธีแล้วแต่ยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ อาจจำเป็นต้องติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ YouTube เพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณแก้ไขปัญหา Error 400 บน YouTube ได้สำเร็จ กลับไปรับชมคลิปที่คุณชื่นชอบได้อย่างเพลิดเพลินนะครับ!