YouTube Music กับ YouTube พรีเมี่ยมต่างกันยังไง

YouTube Music vs. YouTube Premium: ไขข้อข้องใจ เลือกแบบไหนดี?

หลายคนอาจสับสนระหว่าง YouTube Music และ YouTube Premium ว่าต่างกันอย่างไร เลือกใช้แบบไหนถึงจะตอบโจทย์ความต้องการของตัวเอง บทความนี้จะพาไปเจาะลึกถึงข้อแตกต่างที่ควรรู้ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

YouTube Music: แพลตฟอร์มฟังเพลงโดยเฉพาะ คล้ายกับ Spotify หรือ Apple Music

• ข้อดี:
  • ฟังเพลงได้ฟรี (มีโฆษณาคั่น)
  • ค้นหาเพลงจากคลังเพลงขนาดใหญ่ของ YouTube
  • สร้างเพลย์ลิสต์ส่วนตัวได้
  • มีฟีเจอร์ค้นหาเพลงจากเนื้อเพลง
• ข้อจำกัด:
  • มีโฆษณาคั่นระหว่างการฟังเพลง
  • ไม่สามารถเล่นเพลงเป็นพื้นหลังได้ หากออกจากแอปเพลงจะหยุด
  • ไม่สามารถดาวน์โหลดเพลงเพื่อฟังแบบออฟไลน์ได้
  • ไม่สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ Premium ของ YouTube ได้

YouTube Premium: บริการเสริมฟีเจอร์ให้กับ YouTube

• ข้อดี:
  • ชมวิดีโอ YouTube แบบไม่มีโฆษณาคั่น
  • เล่นวิดีโอเป็นพื้นหลังได้ แม้ล็อคหน้าจอหรือเปิดแอปอื่น
  • ดาวน์โหลดวิดีโอเพื่อรับชมแบบออฟไลน์ได้
  • เข้าถึง YouTube Originals ได้
  • รวมสิทธิประโยชน์ของ YouTube Music ทั้งหมด
• ข้อจำกัด:
  • มีค่าบริการรายเดือน

สรุป:

• หากคุณต้องการแพลตฟอร์มฟังเพลงฟรี ไม่ซีเรียสเรื่องโฆษณา และฟังเพลงแบบเบาๆ YouTube Music ก็เพียงพอ
• หากคุณต้องการประสบการณ์การรับชม YouTube ที่ดีกว่าเดิม ไม่มีโฆษณา พร้อมสิทธิพิเศษมากมาย รวมถึงการฟังเพลงแบบไร้ขีดจำกัด YouTube Premium คือคำตอบ

ทั้งนี้ คุณภาพเสียงของทั้งสองแพลตฟอร์มอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์และการตั้งค่า

สุดท้ายแล้ว การเลือกใช้แพลตฟอร์มใดขึ้นอยู่กับความต้องการและรูปแบบการใช้งานของคุณ ลองพิจารณาข้อดี ข้อเสีย และเปรียบเทียบราคา เพื่อเลือกแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์คุณมากที่สุด