YouTube Music ต่าง จาก YouTube Premium ยัง ไง

9 การดู
ความแตกต่างหลักระหว่าง YouTube Music และ YouTube Premium โฆษณา: YouTube Music มีโฆษณาขณะที่ YouTube Premium ไม่มีโฆษณา ดาวน์โหลดแบบออฟไลน์: YouTube Music อนุญาตให้ดาวน์โหลดเพลงและวิดีโอเพื่อฟังแบบออฟไลน์ในขณะที่ YouTube Premium อนุญาตให้ดาวน์โหลดวิดีโอเท่านั้น การเล่นพื้นหลัง: YouTube Music สามารถเล่นเพลงในพื้นหลังได้ในขณะที่ YouTube Premium สามารถเล่นวิดีโอในพื้นหลังได้ YouTube Originals: YouTube Premium รวมถึงการเข้าถึง YouTube Originals ในขณะที่ YouTube Music ไม่มี การเข้าถึงเนื้อหาที่จำกัด: YouTube Music ไม่มีการเข้าถึงเนื้อหาที่จำกัดเช่นคอนเสิร์ตสดในขณะที่ YouTube Premium มี
ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

YouTube Music กับ YouTube Premium: ความแตกต่างที่คุณควรรู้

ในยุคที่การสตรีมเพลงและวิดีโอเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้คน YouTube Music และ YouTube Premium จึงกลายเป็นสองแพลตฟอร์มยอดนิยมที่ตอบโจทย์ความต้องการนี้ Sin embargo, แม้จะมีชื่อที่คล้ายคลึงกัน แต่บริการทั้งสองนี้ก็มีความแตกต่างที่สำคัญที่ผู้ใช้ควรรู้เพื่อเลือกแพลตฟอร์มที่ตรงกับความต้องการของตนเองได้ดีที่สุด

โฆษณา: ประสบการณ์การฟังที่ไม่มีสิ่งรบกวน

หนึ่งในความแตกต่างที่สำคัญที่สุดระหว่าง YouTube Music และ YouTube Premium คือการมีหรือไม่มีโฆษณา YouTube Music เป็นบริการที่รองรับโฆษณา ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้จะต้องรับมือกับโฆษณาเป็นระยะขณะสตรีมเพลง ขณะที่ YouTube Premium เป็นบริการแบบชำระเงินที่ให้ประสบการณ์การฟังที่ปราศจากโฆษณาอย่างสมบูรณ์

การดาวน์โหลดแบบออฟไลน์: ฟังเพลงได้ทุกที่ทุกเวลา

ทั้ง YouTube Music และ YouTube Premium อนุญาตให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดเนื้อหาเพื่อฟังแบบออฟไลน์ได้ อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างที่สำคัญคือ YouTube Music อนุญาตให้ดาวน์โหลดทั้งเพลงและวิดีโอ ในขณะที่ YouTube Premium อนุญาตให้ดาวน์โหลดเฉพาะวิดีโอเท่านั้น คุณสมบัตินี้มีความสำคัญสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเข้าถึงเพลงโปรดของตนโดยไม่ต้องใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

การเล่นพื้นหลัง: ฟังเพลงขณะใช้แอปอื่นๆ

อีกหนึ่งความแตกต่างที่สำคัญคือความสามารถในการเล่นเพลงในพื้นหลัง YouTube Music อนุญาตให้ผู้ใช้เล่นเพลงในพื้นหลังได้ ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้สามารถเปิดแอปอื่นๆ หรือปิดหน้าจอโทรศัพท์ได้โดยที่เพลงยังคงเล่นอยู่ ในทางกลับกัน YouTube Premium อนุญาตให้เล่นวิดีโอในพื้นหลังได้ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรับชมวิดีโอขณะทำกิจกรรมอื่นๆ

YouTube Originals: เข้าถึงเนื้อหาพิเศษ

YouTube Premium รวมถึงการเข้าถึง YouTube Originals ซึ่งเป็นเนื้อหาพิเศษที่สร้างขึ้นโดย YouTube และผู้สร้างที่ได้รับความนิยม เนื้อหาเหล่านี้ประกอบด้วยซีรีส์ รายการ และสารคดีที่หลากหลาย ซึ่งไม่สามารถรับชมได้บน YouTube Music

การเข้าถึงเนื้อหาที่จำกัด: สัมผัสประสบการณ์การรับชมที่ครบถ้วน

สุดท้ายนี้ YouTube Premium ยังมีการเข้าถึงเนื้อหาที่จำกัด เช่น คอนเสิร์ตสดและกิจกรรมพิเศษต่างๆ ที่ไม่สามารถรับชมได้บน YouTube Music คุณสมบัตินี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าถึงเนื้อหาพิเศษและการแสดงสด

สรุป: เลือกบริการที่เหมาะกับคุณ

โดยสรุป YouTube Music และ YouTube Premium เป็นบริการสตรีมมิงที่แตกต่างกันซึ่งให้คุณสมบัติเฉพาะตัว ทั้งสองบริการนี้มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนั้นผู้ใช้จึงควรพิจารณาความต้องการของตนเองเพื่อเลือกบริการที่เหมาะสมที่สุด สำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การฟังเพลงแบบไม่มีโฆษณาและความสามารถในการดาวน์โหลดเพลงและวิดีโอ YouTube Music อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ขณะที่ผู้ที่ให้ความสำคัญกับการเล่นวิดีโอแบบพื้นหลัง การเข้าถึง YouTube Originals และเนื้อหาที่จำกัด YouTube Premium อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า