ตรวจภายใน เป็นประจําเดือนได้ไหม

5 การดู

การตรวจภายในสามารถทำได้ทุกช่วงเวลา ยกเว้นช่วงที่มีประจำเดือน ควรงดเว้นการตรวจไปก่อน หรือตรวจหลังหมดประจำเดือนประมาณ 5 วัน แต่หากมีอาการตกเลือดผิดปกติ สามารถตรวจได้ทันที เพราะแพทย์จะได้วินิจฉัยสาเหตุของการตกเลือดได้

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เรื่องน่ารู้: ตรวจภายในช่วงมีประจำเดือน…ควรเลี่ยงจริงหรือ?

การตรวจภายในเป็นเรื่องสำคัญสำหรับสุขภาพของผู้หญิง ช่วยให้ตรวจพบความผิดปกติและป้องกันโรคต่างๆ ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ แต่คำถามที่พบบ่อยคือ “ตรวจภายในช่วงมีประจำเดือนได้ไหม?” คำตอบคือ โดยทั่วไปแล้วควรหลีกเลี่ยง

ทำไมจึงควรเลี่ยงการตรวจภายในช่วงมีประจำเดือน?

  • ผลการตรวจอาจไม่แม่นยำ: เลือดประจำเดือนอาจบดบังหรือรบกวนการมองเห็นของแพทย์ ทำให้การตรวจหาความผิดปกติ เช่น รอยโรคเล็กๆ หรือการอักเสบ ทำได้ยากขึ้น
  • ความรู้สึกไม่สบายตัว: ช่วงมีประจำเดือนมักเป็นช่วงที่ผู้หญิงรู้สึกไม่สบายตัวอยู่แล้ว การตรวจภายในในช่วงนั้นอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวมากขึ้น
  • การเก็บตัวอย่างอาจไม่ได้ผล: การเก็บตัวอย่างเซลล์เพื่อนำไปตรวจ (Pap smear) อาจทำได้ยากหรือไม่ได้ผล เนื่องจากเลือดประจำเดือนอาจปนเปื้อนตัวอย่าง

กรณีที่สามารถตรวจภายในได้แม้มีประจำเดือน:

มีบางกรณีที่แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจภายในแม้ในช่วงมีประจำเดือน ได้แก่

  • มีอาการตกเลือดผิดปกติ: หากมีเลือดออกผิดปกติระหว่างรอบเดือน หรือมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ ควรปรึกษาแพทย์และอาจจำเป็นต้องตรวจภายในเพื่อหาสาเหตุของการตกเลือด
  • มีอาการผิดปกติอื่นๆ: หากมีอาการปวดท้องรุนแรง ตกขาวผิดปกติ หรือมีอาการอื่นๆ ที่น่าสงสัย ควรปรึกษาแพทย์และอาจจำเป็นต้องตรวจภายในเพื่อหาสาเหตุของอาการ

คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ: หากจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจภายในในช่วงมีประจำเดือน ควรแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า เพื่อให้แพทย์พิจารณาและวางแผนการตรวจที่เหมาะสม
  • ควรตรวจหลังหมดประจำเดือน 5 วัน: หากไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ควรนัดหมายตรวจภายในหลังจากหมดประจำเดือนประมาณ 5 วัน เพื่อให้ผลการตรวจมีความแม่นยำที่สุด
  • ปรึกษาแพทย์: หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการตรวจภายใน หรือมีอาการผิดปกติใดๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ

สรุป:

โดยทั่วไปแล้วการตรวจภายในควรหลีกเลี่ยงในช่วงมีประจำเดือน เพื่อให้ผลการตรวจมีความแม่นยำและลดความรู้สึกไม่สบายตัว แต่หากมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาความจำเป็นในการตรวจภายใน

Disclaimer: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำแนะนำจากแพทย์ได้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับสุขภาพของคุณ