ท้องกี่เดือนถึงจะอ้วก

2 การดู

อาการแพ้ท้องช่วงไตรมาสแรก มักเริ่มในเดือนที่ 1 หรือ 2 หลังการตั้งครรภ์ และอาจมีอาการคลื่นไส้และอาเจียนเกิดขึ้น บางรายอาจไม่มีอาการ หรือมีอาการเกิดขึ้นในช่วงเดือนที่ 3 หรือ 4

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ท้องกี่เดือนถึงจะอ้วก: ความจริงเกี่ยวกับอาการแพ้ท้องที่คุณควรรู้

อาการแพ้ท้อง เป็นหนึ่งในอาการที่ทำให้คุณแม่มือใหม่หลายคนเป็นกังวล และมักเป็นคำถามที่ถูกถามซ้ำๆ ในช่วงเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ “ท้องกี่เดือนถึงจะอ้วก” หรือ “เมื่อไหร่ฉันจะเริ่มแพ้ท้อง” เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบตายตัว เพราะร่างกายของแต่ละคนตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในระหว่างตั้งครรภ์แตกต่างกันไป

โดยทั่วไปแล้ว อาการแพ้ท้องมักเริ่มต้นในช่วงเดือนที่ 1 หรือ 2 หลังจากการปฏิสนธิ นั่นคือประมาณสัปดาห์ที่ 4 ถึง 8 ของการตั้งครรภ์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องเริ่มอาเจียนทันทีที่ตรวจพบว่าตั้งครรภ์ อาการแพ้ท้องมีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่คลื่นไส้เล็กน้อย ไปจนถึงอาเจียนอย่างรุนแรง บางคนอาจรู้สึกเพียงแค่เบื่ออาหาร หรือไวต่อกลิ่นเป็นพิเศษ ในขณะที่บางคนอาจไม่มีอาการแพ้ท้องเลยแม้แต่น้อย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติเช่นกัน

ทำไมถึงมีอาการแพ้ท้อง?

สาเหตุหลักของอาการแพ้ท้องยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ปัจจัยที่เกี่ยวข้องมากที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮอร์โมน Human Chorionic Gonadotropin (HCG) ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงต้นของการตั้งครรภ์ นอกจากนี้ ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้น ก็อาจมีส่วนทำให้เกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียนได้เช่นกัน

สิ่งที่ควรจำเกี่ยวกับอาการแพ้ท้อง:

  • ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องอาเจียน: อาการแพ้ท้องอาจมาในรูปแบบคลื่นไส้ เบื่ออาหาร หรือไวต่อกลิ่นเท่านั้น
  • ระยะเวลาแตกต่างกัน: อาการแพ้ท้องมักจะดีขึ้นในช่วงไตรมาสที่สองของการตั้งครรภ์ (ประมาณสัปดาห์ที่ 12-14) แต่บางรายอาจมีอาการต่อเนื่องไปจนถึงคลอด
  • ความรุนแรงแตกต่างกัน: บางคนอาจมีอาการเล็กน้อย ในขณะที่บางคนอาจมีอาการรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
  • การดูแลตนเองสำคัญ: พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารอ่อนๆ ย่อยง่าย หลีกเลี่ยงกลิ่นที่กระตุ้นอาการ และดื่มน้ำบ่อยๆ
  • ปรึกษาแพทย์: หากอาการแพ้ท้องรุนแรงจนไม่สามารถรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำได้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม

เมื่อไหร่ที่ควรปรึกษาแพทย์?

ถึงแม้ว่าอาการแพ้ท้องส่วนใหญ่จะไม่เป็นอันตราย แต่ก็มีบางกรณีที่ควรปรึกษาแพทย์ทันที เช่น:

  • อาเจียนอย่างรุนแรงจนไม่สามารถรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำได้
  • ปัสสาวะน้อยลง หรือปัสสาวะสีเข้ม
  • รู้สึกเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย หรือเป็นลม
  • น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
  • มีอาการปวดท้อง

สรุป

อาการแพ้ท้องเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ในช่วงเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ แต่ระยะเวลาและความรุนแรงของอาการจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล การดูแลตนเองให้ดี และปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ จะช่วยให้คุณแม่สามารถผ่านช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ไปได้อย่างราบรื่นและมีสุขภาพที่ดีทั้งแม่และลูก