ผู้ใหญ่ไข้ขึ้นสูง ทําไง

เมื่อผู้ใหญ่ไข้ขึ้นสูง: ดูแลตัวเองเบื้องต้น และสัญญาณที่ควรไปพบแพทย์

การมีไข้สูงในผู้ใหญ่อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติในร่างกาย ซึ่งอาจมีสาเหตุได้หลากหลาย ตั้งแต่การติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ไปจนถึงภาวะอื่นๆ ที่ซับซ้อนกว่า การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อบรรเทาอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

การดูแลตัวเองเบื้องต้นเมื่อมีไข้สูง:

เมื่อรู้สึกว่าร่างกายเริ่มร้อนผิดปกติ หรือวัดอุณหภูมิได้สูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส (99.5 องศาฟาเรนไฮต์) ควรเริ่มต้นด้วยการดูแลตัวเองตามขั้นตอนดังนี้:

1. เช็ดตัวลดไข้ด้วยน้ำอุ่น: การเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นจะช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกายอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเน้นบริเวณข้อพับต่างๆ เช่น รักแร้ ขาหนีบ และหน้าผาก หลีกเลี่ยงการใช้น้ำเย็นจัด เพราะอาจทำให้ร่างกายสั่นและอุณหภูมิสูงขึ้นได้

2. พักผ่อนอย่างเพียงพอ: การพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูและต่อสู้กับเชื้อโรค หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานมากเกินไป และพยายามนอนหลับให้สนิท

3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ: เมื่อมีไข้ ร่างกายจะสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ การดื่มน้ำสะอาด หรือน้ำเกลือแร่จะช่วยชดเชยการสูญเสียน้ำและป้องกันภาวะขาดน้ำ

4. รับประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย: เลือกรับประทานอาหารอ่อนๆ ที่ย่อยง่าย เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม หรือซุป เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารโดยไม่ต้องทำงานหนักเกินไป หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด หรืออาหารมัน เพราะอาจทำให้รู้สึกไม่สบายท้อง

5. สวมเสื้อผ้าโปร่งสบาย: เลือกสวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เพื่อช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกาย

6. รับประทานยาลดไข้: สามารถรับประทานยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล ตามขนาดที่ระบุบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด ห้ามรับประทานยาเกินขนาดที่กำหนด เพราะอาจเป็นอันตรายต่อตับได้ หากมีโรคประจำตัว หรือแพ้ยา ควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ก่อนใช้ยา

สัญญาณอันตรายที่ควรไปพบแพทย์ทันที:

แม้ว่าการดูแลตัวเองเบื้องต้นจะช่วยบรรเทาอาการไข้ได้ในระดับหนึ่ง แต่หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม:

• ไข้สูงมาก: อุณหภูมิสูงกว่า 39.5 องศาเซลเซียส (103 องศาฟาเรนไฮต์) ที่ไม่ลดลงแม้รับประทานยาลดไข้
• มีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย: เช่น ปวดศีรษะอย่างรุนแรง คอแข็ง อาเจียนพุ่ง ชัก หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก หรือมีผื่นขึ้นตามตัว
• มีอาการสับสน: ซึมลง ไม่รู้สึกตัว หรือไม่สามารถสื่อสารได้
• ปัสสาวะน้อย: หรือไม่ปัสสาวะเลย
• มีโรคประจำตัว: เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคเบาหวาน หรือโรคไต
• อาการไม่ดีขึ้น: หลังจากดูแลตัวเองเบื้องต้นแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน

ข้อควรจำ:

การมีไข้สูงเป็นเพียงอาการเบื้องต้นที่บ่งบอกถึงความผิดปกติในร่างกาย การวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริงของไข้จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมและการสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดจะช่วยให้คุณรับมือกับไข้สูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้