อาการตกเลือดหลังคลอดเป็นยังไงคะ

1 การดู

หลังคลอดบุตร หากมีเลือดออกผิดปกติ เช่น มากกว่าปกติ หรือมีอาการหน้ามืด ใจสั่น ควรรีบแจ้งทีมแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะตกเลือดหลังคลอด ซึ่งต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิต

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ตกเลือดหลังคลอด: ภัยเงียบที่คุณแม่ต้องรู้ สังเกตอาการ และรับมืออย่างทันท่วงที

การคลอดบุตรเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสุขและความตื่นเต้น แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ หนึ่งในภาวะที่น่ากังวลและคุณแม่หลังคลอดควรรู้จักเป็นอย่างดีคือ ภาวะตกเลือดหลังคลอด

ตกเลือดหลังคลอดคือภาวะที่มีเลือดออกจากช่องคลอดมากผิดปกติหลังจากการคลอดบุตร โดยปกติแล้ว เลือดที่ออกจากช่องคลอดหลังคลอด (น้ำคาวปลา) จะค่อยๆ ลดลงและมีสีจางลงภายในไม่กี่สัปดาห์ แต่หากมีอาการที่บ่งชี้ถึงภาวะตกเลือด คุณแม่ควรรีบแจ้งแพทย์หรือพยาบาลทันที

อาการแบบไหนที่เรียกว่า “ผิดปกติ”?

ถึงแม้ว่าปริมาณเลือดที่ออกจากช่องคลอดหลังคลอดจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่สัญญาณเตือนที่บ่งบอกถึงภาวะตกเลือดหลังคลอดที่ควรสังเกตมีดังนี้:

  • เลือดออกมากผิดปกติ: คือการที่ต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยกว่าปกติ เช่น เปลี่ยนทุก 1-2 ชั่วโมง หรือมีลิ่มเลือดขนาดใหญ่ออกมา
  • เลือดไหลไม่หยุด: เลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว
  • อาการหน้ามืด เวียนศีรษะ: เนื่องจากการเสียเลือดมาก ทำให้ร่างกายขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง
  • ใจสั่น: หัวใจเต้นเร็วขึ้นเพื่อพยายามชดเชยการสูญเสียเลือด
  • ความดันโลหิตต่ำ: ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียและหมดแรง
  • ปวดท้องรุนแรง: อาจเกิดจากการที่มดลูกไม่หดตัว

ทำไมถึงต้องรีบรักษา?

ภาวะตกเลือดหลังคลอดหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้ เช่น:

  • ภาวะช็อก: เนื่องจากการสูญเสียเลือดมากเกินไป ทำให้ร่างกายไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ
  • ภาวะซีด: เนื่องจากร่างกายขาดธาตุเหล็กอย่างรุนแรง
  • ความจำเป็นในการผ่าตัด: ในบางกรณี อาจต้องผ่าตัดเพื่อหยุดเลือด
  • เสียชีวิต: ในกรณีที่รุนแรงมาก ภาวะตกเลือดหลังคลอดอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

ปัจจัยเสี่ยงที่ควรระวัง:

ถึงแม้ว่าภาวะตกเลือดหลังคลอดสามารถเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ทุกคน แต่ก็มีปัจจัยบางอย่างที่เพิ่มความเสี่ยง เช่น:

  • เคยมีประวัติตกเลือดหลังคลอดมาก่อน: คุณแม่ที่เคยมีประสบการณ์ตกเลือดหลังคลอดในการตั้งครรภ์ครั้งก่อน มีโอกาสที่จะเกิดซ้ำได้
  • การคลอดลูกแฝด: มดลูกมีการขยายตัวมากกว่าปกติ ทำให้หลังคลอดมดลูกอาจหดตัวได้ไม่ดีเท่าที่ควร
  • ครรภ์แฝดน้ำ: ทำให้มดลูกขยายตัวมากเกินไป
  • การคลอดนาน: การคลอดที่ใช้เวลานาน อาจทำให้มดลูกอ่อนล้าและไม่สามารถหดตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การใช้ยาบางชนิด: เช่น ยาที่ใช้ในการกระตุ้นการคลอด

สิ่งที่ควรทำเพื่อป้องกันและรับมือ:

  • ปรึกษาแพทย์และแจ้งประวัติการตั้งครรภ์: การแจ้งประวัติการตั้งครรภ์และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ให้แพทย์ทราบ จะช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการดูแลที่เหมาะสมได้
  • สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด: หลังจากคลอดบุตรแล้ว ให้สังเกตอาการผิดปกติและแจ้งทีมแพทย์ทันที
  • พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์: ทำตามคำแนะนำของแพทย์เกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังคลอดอย่างเคร่งครัด

สรุป:

ภาวะตกเลือดหลังคลอดเป็นภาวะที่ต้องให้ความสำคัญและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด การสังเกตอาการผิดปกติและแจ้งทีมแพทย์ทันทีเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณแม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที และป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้ การมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะตกเลือดหลังคลอด จะช่วยให้คุณแม่สามารถดูแลตัวเองและลูกน้อยได้อย่างปลอดภัยและมีความสุข