เด็กไม่ฉี่ ควรทําอย่างไร

2 การดู

หากบุตรไม่ปัสสาวะนานผิดปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิน 24 ชั่วโมง ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินหาสาเหตุที่แท้จริง อย่ารอช้า! การวินิจฉัยและรักษาที่รวดเร็วจะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เมื่อลูกน้อยไม่ฉี่: สัญญาณที่ต้องใส่ใจและวิธีรับมืออย่างถูกต้อง

การดูแลลูกน้อยเป็นเรื่องละเอียดอ่อน การสังเกตความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในพฤติกรรมของลูกจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการขับถ่าย ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สุขภาพโดยรวมของลูกได้เป็นอย่างดี หนึ่งในความกังวลที่คุณพ่อคุณแม่อาจเผชิญคือ “ลูกไม่ฉี่” แล้วเราควรทำอย่างไรเมื่อลูกน้อยไม่ปัสสาวะนานผิดปกติ?

ทำความเข้าใจ: ปริมาณปัสสาวะปกติในเด็กคือเท่าไหร่?

ก่อนจะตกใจจนเกินเหตุ สิ่งแรกที่ควรทำคือการทำความเข้าใจปริมาณปัสสาวะปกติในเด็กแต่ละช่วงวัยเสียก่อน ปริมาณปัสสาวะจะแตกต่างกันไปตามอายุ น้ำหนัก และปริมาณของเหลวที่ลูกได้รับในแต่ละวัน โดยทั่วไปแล้ว:

  • ทารกแรกเกิด: อาจปัสสาวะบ่อยถึง 6-8 ครั้งต่อวัน โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรกๆ หลังคลอด
  • เด็กเล็ก: ปัสสาวะประมาณ 4-6 ครั้งต่อวัน
  • เด็กโต: ปัสสาวะประมาณ 3-4 ครั้งต่อวัน

หากคุณสังเกตว่าลูกน้อยปัสสาวะน้อยกว่าปกติ หรือไม่ปัสสาวะเลยเป็นเวลานานผิดปกติ ควรรีบหาสาเหตุและจัดการอย่างเหมาะสม

อะไรคือสาเหตุที่ลูกไม่ฉี่?

การที่ลูกไม่ปัสสาวะอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งสาเหตุที่ไม่ร้ายแรงและสาเหตุที่ต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์ สาเหตุที่พบบ่อยได้แก่:

  • ภาวะขาดน้ำ: นี่เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด โดยเฉพาะในเด็กที่ป่วย มีไข้ ท้องเสีย หรืออาเจียน การขาดน้ำจะทำให้ร่างกายพยายามเก็บน้ำไว้ ส่งผลให้ปัสสาวะน้อยลง
  • การดื่มน้ำน้อย: หากลูกได้รับของเหลวน้อยเกินไปในแต่ละวัน ก็อาจทำให้ปัสสาวะน้อยลงได้
  • การกลั้นปัสสาวะ: เด็กบางคนอาจกลั้นปัสสาวะเนื่องจากไม่อยากไปห้องน้ำ หรือเพราะมัวแต่เล่นสนุก
  • ปัญหาเกี่ยวกับไต: ในบางกรณี ปัญหาเกี่ยวกับไต เช่น ไตวาย หรือการติดเชื้อในไต อาจเป็นสาเหตุทำให้ปัสสาวะน้อยลง
  • ปัญหาเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ: การอุดตันในทางเดินปัสสาวะ หรือความผิดปกติแต่กำเนิด อาจทำให้ปัสสาวะไม่ออก
  • ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด: ยาบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงทำให้ปัสสาวะน้อยลง

เมื่อไหร่ที่ต้องพบแพทย์?

แม้ว่าการที่ลูกไม่ฉี่อาจเป็นเพียงอาการชั่วคราว แต่ก็มีบางกรณีที่ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างเร่งด่วน ควรรีบพาบุตรหลานไปพบแพทย์ทันที หากมีอาการดังต่อไปนี้:

  • ไม่ปัสสาวะนานเกิน 24 ชั่วโมง
  • มีอาการขาดน้ำอย่างรุนแรง เช่น ปากแห้ง ผิวแห้ง ร้องไห้ไม่มีน้ำตา ซึมลง
  • มีไข้สูง
  • มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง
  • มีเลือดปนในปัสสาวะ
  • มีอาการบวมตามร่างกาย
  • มีอาการอ่อนเพลียอย่างมาก

สิ่งที่ควรทำเมื่อลูกไม่ฉี่ (เบื้องต้น):

  1. สังเกตอาการ: สังเกตอาการอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นร่วมกับการไม่ปัสสาวะ เช่น อาการขาดน้ำ อาการป่วย หรืออาการผิดปกติอื่นๆ
  2. เพิ่มปริมาณของเหลว: หากลูกไม่ป่วยและไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ ลองเพิ่มปริมาณของเหลวที่ลูกได้รับ เช่น น้ำเปล่า นม หรือน้ำผลไม้
  3. กระตุ้นให้ลูกปัสสาวะ: พาไปนั่งห้องน้ำ ลองเปิดน้ำไหลเบาๆ หรืออ่านนิทานให้ฟัง เพื่อให้ลูกรู้สึกผ่อนคลายและอยากปัสสาวะ
  4. ตรวจสอบยาที่รับประทาน: หากลูกกำลังรับประทานยาอยู่ ให้ตรวจสอบกับแพทย์หรือเภสัชกรว่ายานั้นมีผลข้างเคียงทำให้ปัสสาวะน้อยลงหรือไม่

ข้อควรจำ:

  • อย่ารอช้า หากลูกไม่ปัสสาวะนานผิดปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิน 24 ชั่วโมง ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินหาสาเหตุที่แท้จริง
  • การวินิจฉัยและรักษาที่รวดเร็วจะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
  • อย่าพยายามให้ยาขับปัสสาวะแก่ลูกเองโดยเด็ดขาด เพราะอาจเป็นอันตรายได้

การใส่ใจและสังเกตความเปลี่ยนแปลงของลูกน้อยอย่างใกล้ชิด รวมถึงการปรึกษาแพทย์เมื่อมีข้อสงสัย จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลสุขภาพของลูกน้อยได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมที่สุด