โรตีอินเดียเรียกว่าอะไร

มากกว่าแค่ “โรตี”: การเดินทางสู่โลกแห่งแป้งแผ่นในอินเดีย

คำว่า “โรตี” สำหรับคนไทยหลายคน อาจหมายถึงแป้งแผ่นบางๆ ทอดกรอบ หรือแผ่นนุ่มๆ ที่เสิร์ฟคู่กับแกงต่างๆ แต่ในอินเดียเอง คำนี้กลับไม่ได้ครอบคลุมความหลากหลายของแป้งแผ่นที่เป็นเสมือนหัวใจหลักของมื้ออาหาร ความจริงแล้ว “โรตี” เป็นเพียงหนึ่งในชื่อเรียกของอาหารประเภทนี้เท่านั้น และเบื้องหลังชื่อเรียกที่ดูเรียบง่ายนั้นซ่อนไว้ซึ่งความแตกต่างในกรรมวิธี วัตถุดิบ และรสสัมผัสที่หลากหลาย ชวนให้ค้นหาและลิ้มลอง

ถ้าจะกล่าวอย่างคร่าวๆ แป้งแผ่นพื้นฐานที่ทำจากแป้งสาลีในอินเดีย สามารถแบ่งออกได้เป็นกลุ่มใหญ่ๆ อย่างน้อยสามประเภท โดยที่คำว่า “โรตี” “จปาตี” และ “นาน” มักถูกใช้เรียกขนานนาม แต่ความหมายและลักษณะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

โรตี (Roti): มักหมายถึงแป้งแผ่นที่ทำจากแป้งสาลี อาจมีการเติมไขมันเล็กน้อย และนำไปทอดหรือย่างบนกระทะ จนได้แป้งแผ่นที่บางและกรอบ หรืออาจมีความนุ่มบางส่วนขึ้นอยู่กับสูตรและกรรมวิธี ในบางพื้นที่ โรตีอาจหมายถึงแป้งแผ่นที่ทำจากแป้งอื่นๆ เช่น แป้งข้าวเจ้า หรือแป้งข้าวโพด ทำให้ความหลากหลายของ “โรตี” นั้นกว้างขวางมากขึ้นไปอีก เรียกได้ว่าเป็นคำเรียกที่ใช้ในวงกว้าง แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดเฉพาะเจาะจงมากนัก

จปาตี (Chapati): ถือเป็นแป้งแผ่นแบบดั้งเดิม มักทำจากแป้งสาลีไม่ขัดสี จึงมีสีน้ำตาลอ่อน และให้รสชาติที่หอมกว่าแป้งสาลีขัดสี กรรมวิธีการทำคือการนำแป้งที่นวดจนเนียนไปย่างบนกระทะที่แห้ง จนสุกได้ที่ เนื้อสัมผัสของจปาตีจะเป็นแบบนุ่ม แต่ไม่ฟู และมีรสชาติที่เรียบง่าย เหมาะกับการรับประทานคู่กับแกงรสจัดจ้าน เน้นความสมดุลของรสชาติ

นาน (Naan): แตกต่างจากสองแบบแรกอย่างสิ้นเชิง นานเป็นแป้งแผ่นที่ทำจากแป้งสาลี และมักอบในเตาทันดูร์ (Tandoor) ซึ่งเป็นเตาอบดินเผาแบบดั้งเดิมของชาวอินเดีย ความร้อนสูงภายในเตาทันดูร์ทำให้ได้นานที่มีเนื้อสัมผัสที่นุ่มฟู บางครั้งอาจมีการเติมโยเกิร์ต เนย หรือเครื่องเทศลงไปในแป้ง เพื่อเพิ่มรสชาติและความหอม นานจึงมีลักษณะที่นุ่ม ฟู และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มักเสิร์ฟคู่กับแกงต่างๆ เช่น แกงไก่ แกงเนื้อ หรือแกงผัก

การเรียกชื่อแป้งแผ่นในอินเดียจึงไม่ใช่เรื่องง่าย และขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย การทำความเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้ จะช่วยให้เราสามารถชื่นชมและเข้าใจความหลากหลายทางด้านอาหารของอินเดียได้ดียิ่งขึ้น และจะทำให้การลิ้มลองอาหารแต่ละชนิดนั้น เต็มไปด้วยความหมายและรสชาติที่ลุ่มลึกยิ่งกว่าเดิม