ได้เงินเดือนเท่าไรถึงเสียภาษี
หากมีรายได้ต่อปีเกิน 150,000 บาท จะเริ่มเสียภาษี แต่ไม่ต้องกังวล! กฎหมายเปิดโอกาสให้หักค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท ค่าใช้จ่ายจากงานประจำ 100,000 บาท และประกันสังคม 9,000 บาท (750 บาทต่อเดือน) เพื่อลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย วางแผนภาษีดีๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของคุณ!
รู้เท่าทันภาษี: รายได้เท่าไหร่ถึงต้องเสียภาษี และวิธีวางแผนลดภาระ
หลายคนมักสงสัยว่า รายได้ต่อปีต้องมากแค่ไหนจึงจะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คำตอบง่ายๆ คือ ไม่ใช่ว่าได้เงินเดือนมากเท่าไหร่ก็ต้องเสียภาษีเสมอไป แม้ว่าเกณฑ์ขั้นต่ำในการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะกำหนดไว้ที่ รายได้สุทธิเกิน 150,000 บาทต่อปี แต่ความจริงแล้ว มีกลไกและวิธีการต่างๆ ที่สามารถช่วยลดภาระภาษีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ผู้มีรายได้ไม่ต้องแบกรับภาระภาษีที่หนักเกินไป
สำหรับปีภาษี 2566 (หรือปีที่แล้ว) หากคุณมีรายได้สุทธิ (รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆ) เกิน 150,000 บาท คุณจะต้องเสียภาษี แต่ก่อนจะตกใจไป อย่าลืมว่าคุณสามารถนำค่าใช้จ่ายต่างๆ มาหักลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งจะช่วยลดจำนวนเงินที่ต้องเสียภาษีลงได้อย่างมากมาย ตัวอย่างค่าใช้จ่ายที่สามารถนำมาหักลดหย่อนได้ ได้แก่:
-
ค่าลดหย่อนส่วนตัว: สำหรับปีภาษี 2566 สามารถหักลดหย่อนได้ 60,000 บาท นี่เป็นค่าลดหย่อนพื้นฐานที่ทุกคนสามารถใช้ได้
-
ค่าใช้จ่ายในการประกอบอาชีพ: สำหรับผู้ที่ทำงานประจำ อาจมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน เช่น ค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายในการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาตนเอง หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับอาชีพ แต่การคำนวณค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับหลักฐานและรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง โดยทั่วไปแล้วอาจมีการจำกัดวงเงินสูงสุดที่สามารถนำมาหักลดหย่อนได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของค่าใช้จ่าย ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากกรมสรรพากร
-
เบี้ยประกันชีวิต: สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตมาหักลดหย่อนภาษีได้ แต่จะมีเงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆ เช่น ประเภทของประกัน วงเงินที่สามารถหักลดหย่อนได้ จึงควรศึกษาเงื่อนไขให้ละเอียดก่อน
-
ประกันสังคม: สามารถนำเงินสมทบประกันสังคมมาหักลดหย่อนภาษีได้ โดยสามารถหักลดหย่อนได้เต็มจำนวนของเงินที่สมทบ (เช่น ในกรณีที่จ่ายเอง 750 บาทต่อเดือน จะหักลดหย่อนได้ 9,000 บาทต่อปี)
ตัวอย่าง: สมมุติว่าคุณมีรายได้สุทธิ 200,000 บาทต่อปี คุณสามารถนำค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท และค่าลดหย่อนอื่นๆ เช่น ประกันสังคม 9,000 บาท (สมมติ) มาหักลดหย่อนได้ ซึ่งจะทำให้รายได้ที่ต้องเสียภาษีเหลือเพียง 200,000 – 60,000 – 9,000 = 131,000 บาท ซึ่งอาจทำให้คุณไม่ต้องเสียภาษีเลย หรือเสียภาษีในอัตราที่ต่ำกว่าเดิมมาก
คำแนะนำ: การวางแผนภาษีที่ดีนั้นสำคัญมาก ควรศึกษาข้อมูลจากกรมสรรพากรอย่างละเอียด หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของตนเอง อย่าลืมเก็บหลักฐานการใช้จ่ายต่างๆ ไว้เป็นอย่างดี เพื่อใช้ในการยื่นแบบแสดงรายการภาษี การวางแผนที่ดีจะช่วยให้คุณสามารถลดภาระภาษีได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ และนำเงินไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ได้อย่างคุ้มค่า
หมายเหตุ: ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากกรมสรรพากร เพื่อความถูกต้องและครอบคลุม กฎหมายและอัตราภาษีอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ จึงควรติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง
#ภาษีเงินได้#เกณฑ์เสียภาษี#เงินเดือนข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต