กินหวานแล้วความดันขึ้นไหม

4 การดู

การกินของหวานมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะความดันโลหิต การรับประทานขนมหวาน น้ำหวาน หรือของขบเคี้ยวที่มีน้ำตาลสูงเป็นประจำ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอ้วน เบาหวาน และไขมันในเลือดสูง นอกจากนี้ ยังอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้อีกด้วย

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

กินหวานแล้วความดันขึ้นจริงหรือ? ไขข้อข้องใจกับความสัมพันธ์ระหว่างของหวานและความดันโลหิต

ความเชื่อที่ว่าการกินของหวานทำให้ความดันโลหิตสูงนั้นเป็นความจริงที่ถูกพูดถึงกันอย่างแพร่หลาย แต่ความสัมพันธ์ที่แท้จริงนั้นซับซ้อนกว่าที่คิด บทความนี้จะชี้แจงให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบของการบริโภคของหวานต่อความดันโลหิต

ไม่ใช่ของหวานทุกชนิดที่เป็นภัยต่อความดัน: ความจริงแล้ว ไม่ได้หมายความว่าการกินขนมหวานสักชิ้นสองชิ้นจะส่งผลให้ความดันโลหิตพุ่งพรวดขึ้นมาทันที ปัญหาหลักเกิดจากการบริโภคของหวานอย่างมากเกินไปและต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งของหวานที่มีน้ำตาลสูง ไขมันทรานส์ และแคลอรี่สูง เช่น ขนมอบ เครื่องดื่มหวานๆ ไอศกรีม หรือขนมขบเคี้ยวที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลัก

กลไกการทำงานที่ซ่อนอยู่: การบริโภคของหวานมากเกินไปนำไปสู่ภาวะต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิตสูงได้แก่:

  • เพิ่มน้ำหนักและไขมันสะสม: น้ำตาลที่เกินความต้องการของร่างกายจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันสะสม นำไปสู่ภาวะโรคอ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อความดันโลหิตสูง ไขมันส่วนเกินจะไปเพิ่มภาระการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น

  • ส่งเสริมภาวะดื้อต่ออินซูลิน: การกินของหวานมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน ฮอร์โมนที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ภาวะดื้อต่ออินซูลินเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของความดันโลหิตสูง

  • เพิ่มระดับไขมันในเลือด: การบริโภคของหวานที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันทรานส์ จะไปเพิ่มระดับไขมันในเลือด เช่น ไขมัน LDL (“ไขมันเลว”) ซึ่งก่อให้เกิดการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดแข็งตัว และความดันโลหิตสูงขึ้น

  • การอักเสบเรื้อรัง: การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงเป็นประจำอาจกระตุ้นการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของหลอดเลือดและทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น

สรุป: การกินของหวานปริมาณน้อยๆ เป็นครั้งคราว อาจไม่ส่งผลกระทบต่อความดันโลหิตอย่างมีนัยสำคัญ แต่การบริโภคของหวานที่มีน้ำตาลสูง ไขมันสูง และแคลอรี่สูงอย่างมากเกินไปและต่อเนื่อง จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง และความดันโลหิตสูง ดังนั้น การควบคุมปริมาณและเลือกบริโภคของหวานที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ และควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการหากมีความกังวลเกี่ยวกับความดันโลหิตของตนเอง