กินแล้วอวกออกเกิดจากอะไร

6 การดู

อาการคลื่นไส้ อาเจียนหลังรับประทานอาหาร อาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินอาหาร การแพ้อาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง หรือภาวะขาดน้ำรุนแรง หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม อย่าพยายามรักษาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

กินแล้วอ้วกออก: สาเหตุที่มากกว่าแค่อาหารเป็นพิษ

อาการคลื่นไส้ อาเจียนหลังรับประทานอาหาร เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และสร้างความกังวลใจให้กับใครหลายคน หลายคนมักคิดว่าเกิดจากอาหารเป็นพิษเพียงอย่างเดียว แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาการเหล่านี้สามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ตั้งแต่อาการเล็กน้อยที่สามารถรักษาได้เอง ไปจนถึงภาวะร้ายแรงที่ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด

สาเหตุที่พบบ่อย:

  • การติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร: เช่น โรคกระเพาะอาหารอักเสบจากไวรัส, แบคทีเรีย หรือปรสิต ซึ่งมักมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ท้องเสีย ปวดท้อง มีไข้ ความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อโรค
  • อาหารเป็นพิษ: เกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรค สารพิษจากเชื้อรา หรือสารเคมี มักมีอาการเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหลังรับประทานอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียนอย่างรุนแรง ปวดท้อง ท้องเสีย
  • การแพ้อาหาร: ร่างกายมีปฏิกิริยาต่อสารก่อภูมิแพ้ในอาหารบางชนิด อาการอาจแสดงออกได้หลายแบบ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ผื่นคัน หายใจลำบาก บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก หรือลิ้น ซึ่งบางรายอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
  • ภาวะไม่ทนต่ออาหาร (Food intolerance): ร่างกายไม่สามารถย่อยอาหารบางชนิดได้ เช่น น้ำตาลแลคโตสในนม กลูเตนในข้าวสาลี มักมีอาการท้องอืด ปวดท้อง คลื่นไส้ ท้องเสีย แต่ไม่รุนแรงเท่าการแพ้อาหาร
  • การรับประทานอาหารมากเกินไป: การกินอาหารในปริมาณมากเกินไปในคราวเดียว ทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนักเกินไป ส่งผลให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียนได้
  • ภาวะขาดน้ำ: ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่มากเกินไป ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ
  • โรคอื่นๆ: เช่น โรคนิ่วในถุงน้ำดี, ไส้ติ่งอักเสบ, ลำไส้อุดตัน, โรคของระบบประสาทส่วนกลาง รวมถึงผลข้างเคียงจากยาบางชนิด หรือการตั้งครรภ์

เมื่อใดควรพบแพทย์?

หากมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนหลังรับประทานอาหาร และมีอาการต่อไปนี้ควรรีบไปพบแพทย์ทันที:

  • อาเจียนอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง
  • อาเจียนเป็นเลือด
  • ปวดท้องอย่างรุนแรง
  • มีไข้สูง
  • อุจจาระมีเลือด
  • อ่อนเพลียอย่างรุนแรง
  • สับสน มึนงง

อย่าพยายามรักษาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ การวินิจฉัยที่ถูกต้องและการรักษาที่เหมาะสม จะช่วยให้อาการดีขึ้นและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

การดูแลตนเองเบื้องต้นเมื่อมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน:

  • ดื่มน้ำเปล่าทีละน้อย เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
  • งดอาหารหนัก และเลือกทานอาหารอ่อนๆ เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก
  • พักผ่อนให้เพียงพอ

การป้องกันอาการคลื่นไส้ อาเจียน:

  • ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ
  • รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ
  • ดื่มน้ำสะอาด
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่ตนเองแพ้หรือมีภาวะไม่ทนต่ออาหารชนิดนั้น

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ และอย่าลืมปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับอาการของคุณ