ทำไมอดอาหารแล้วน้ำตาลขึ้น

2 การดู

เมื่ออดอาหารนานๆ ร่างกายขาดพลังงาน ฮอร์โมนกลูคากอนจะหลั่งออกมาสลายไกลโคเจนเป็นกลูโคสเพื่อเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ทำไมอดอาหารแล้วน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้? ไขปริศนาภาวะน้ำตาลพุ่งแม้ไม่ได้กิน

หลายคนเข้าใจว่าการอดอาหารจะทำให้น้ำตาลในเลือดลดลง แต่ในความเป็นจริงแล้ว การอดอาหารเป็นเวลานานกลับทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้ในบางกรณี ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกัน บทความนี้จะอธิบายกลไกที่ซับซ้อนเบื้องหลังปรากฏการณ์นี้

อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้น เมื่อร่างกายขาดพลังงานจากการอดอาหาร ฮอร์โมนกลูคากอนจะถูกหลั่งออกมาจากตับอ่อน กลูคากอนทำหน้าที่สลายไกลโคเจน ซึ่งเป็นแหล่งเก็บน้ำตาลสำรองในตับและกล้ามเนื้อ ให้กลายเป็นกลูโคส และปล่อยเข้าสู่กระแสเลือด นี่คือกลไกปกติของร่างกายในการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่เพื่อให้สมองและอวัยวะอื่นๆ ทำงานได้อย่างเหมาะสม ดังนั้น การอดอาหารจึงกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำตาลออกมาเอง ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดอาจสูงขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงขณะอดอาหารไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน และระดับความสูงของน้ำตาลก็แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น

  • ระยะเวลาในการอดอาหาร: ยิ่งอดอาหารนานเท่าไหร่ ร่างกายก็ยิ่งต้องดึงไกลโคเจนมาใช้มากขึ้นเท่านั้น หากไกลโคเจนถูกใช้หมดไป ร่างกายจะเริ่มสลายไขมันและโปรตีนเพื่อสร้างกลูโคส กระบวนการนี้อาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
  • สภาวะสุขภาพ: ผู้ที่มีภาวะดื้อต่ออินซูลินหรือโรคเบาหวานชนิดที่ 2 อาจมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นมากกว่าคนทั่วไปเมื่ออดอาหาร เนื่องจากร่างกายไม่สามารถใช้อินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพในการนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์
  • ระดับความเครียด: ความเครียดทางร่างกายและจิตใจสามารถกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งมีผลเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด
  • ยาบางชนิด: ยาบางชนิดเช่น สเตียรอยด์ อาจส่งผลข้างเคียงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น

ดังนั้น แม้ว่าการอดอาหารจะเป็นวิธีหนึ่งในการควบคุมน้ำหนักและมีประโยชน์ต่อสุขภาพในบางด้าน แต่ควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว การตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

การเข้าใจกลไกการทำงานของร่างกายต่อการอดอาหารและผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือด จะช่วยให้เราสามารถจัดการกับสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเลือกวิธีการดูแลตัวเองที่เหมาะสมกับสภาวะร่างกายของแต่ละบุคคล