การเก็บน้ําไขสันหลัง (CSF) ทําอย่างไร

2 การดู

การเก็บตัวอย่างน้ำไขสันหลังจะต้องปราศจากเชื้อ ใช้เข็มเจาะรับน้ำไขสันหลังลงในหลอดเก็บตัวอย่างที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้วอย่างน้อย 3 หลอด เรียงลำดับการเก็บตามขั้นตอน ระบุรายละเอียดผู้ป่วย ชื่อ-นามสกุล และหมายเลขหลอด (เช่น หลอด 1, หลอด 2, หลอด 3) บนฉลากอย่างชัดเจน หลอดแต่ละหลอดควรมีปริมาณเพียงพอสำหรับการตรวจวิเคราะห์ที่แตกต่างกัน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

การเก็บน้ำไขสันหลัง: ขั้นตอนสำคัญและเทคนิคปฏิบัติเพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำ

น้ำไขสันหลัง (CSF) คือของเหลวใสที่ไหลเวียนอยู่ในโพรงสมองและไขสันหลัง การตรวจวิเคราะห์น้ำไขสันหลังเป็นเครื่องมือสำคัญในการวินิจฉัยโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท เช่น การติดเชื้อ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เลือดออกในสมอง และโรคทางระบบประสาทอื่นๆ ดังนั้น การเก็บน้ำไขสันหลังอย่างถูกต้องและปราศจากเชื้อจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวดเพื่อให้ได้ผลการตรวจที่แม่นยำและเชื่อถือได้ บทความนี้จะอธิบายขั้นตอนและเทคนิคในการเก็บน้ำไขสันหลังอย่างละเอียด

ขั้นตอนการเตรียมและการเก็บน้ำไขสันหลัง:

  1. การเตรียมผู้ป่วย: แจ้งให้ผู้ป่วยทราบถึงขั้นตอนและวัตถุประสงค์ของการเก็บน้ำไขสันหลังอย่างชัดเจน ตอบข้อซักถามและคลายความกังวลของผู้ป่วย จัดท่าผู้ป่วยให้อยู่ในท่าตะแคง งอเข่าชิดอก หรือท่านั่งก้มหน้า เพื่อให้ช่องว่างระหว่างกระดูกสันหลังกว้างขึ้น ทำความสะอาดบริเวณที่จะทำหัตถการด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างทั่วถึงและปลอดภัย โดยเน้นการทำความสะอาดเป็นวงกว้างจากจุดที่จะเจาะออกไปด้านนอก

  2. การเตรียมอุปกรณ์: เตรียมเข็มเจาะน้ำไขสันหลัง หลอดเก็บตัวอย่างที่ปราศจากเชื้ออย่างน้อย 3 หลอด ฉลาก ถุงมือปลอดเชื้อ และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็น ตรวจสอบความสมบูรณ์ของอุปกรณ์ทุกชิ้นก่อนใช้งาน

  3. การเจาะเก็บน้ำไขสันหลัง: แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณที่จะทำการเจาะ จากนั้นจึงค่อยๆ สอดเข็มเจาะน้ำไขสันหลังเข้าไปในช่องว่างระหว่างกระดูกสันหลัง เมื่อเจาะถึงตำแหน่งที่ถูกต้อง น้ำไขสันหลังจะไหลออกมา จึงเริ่มเก็บน้ำไขสันหลังลงในหลอดที่เตรียมไว้ตามลำดับ

  4. การเก็บตัวอย่าง: เก็บน้ำไขสันหลังลงในหลอดที่เตรียมไว้ โดยทั่วไปจะเก็บอย่างน้อย 3 หลอด โดยมีลำดับการเก็บและวัตถุประสงค์ดังนี้:

    • หลอดที่ 1: มักใช้สำหรับตรวจทางชีวเคมีและภูมิคุ้มกัน
    • หลอดที่ 2: มักใช้สำหรับตรวจหาเชื้อ เช่น การเพาะเชื้อและการตรวจ PCR
    • หลอดที่ 3: มักใช้สำหรับนับเม็ดเลือด และสามารถใช้ตรวจทางเซลล์วิทยาได้

    ปริมาณน้ำไขสันหลังที่เก็บในแต่ละหลอดควรเพียงพอสำหรับการตรวจวิเคราะห์แต่ละชนิด และควรระบุลำดับหลอดที่ชัดเจน

  5. การปิดฉลาก: ติดฉลากบนหลอดเก็บตัวอย่างทุกหลอดให้ครบถ้วน โดยระบุข้อมูลผู้ป่วย ชื่อ-สกุล เลขประจำตัวผู้ป่วย วันที่และเวลาที่เก็บ ลำดับหลอด (หลอดที่ 1, หลอดที่ 2, หลอดที่ 3) และชื่อแพทย์ผู้ทำการเก็บ อย่างชัดเจน

  6. การส่งตรวจ: นำหลอดเก็บตัวอย่างน้ำไขสันหลังส่งห้องปฏิบัติการทันที เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของตัวอย่าง และเพื่อให้ได้ผลการตรวจที่ถูกต้อง

ข้อควรระวัง:

  • การเก็บน้ำไขสันหลังควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
  • ต้องปฏิบัติตามหลักการปลอดเชื้ออย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • ควรสังเกตอาการผู้ป่วยหลังการเก็บน้ำไขสันหลัง เช่น อาการปวดศีรษะ วิงเวียน และอาการผิดปกติอื่นๆ

การปฏิบัติตามขั้นตอนและเทคนิคที่ถูกต้องในการเก็บน้ำไขสันหลัง จะช่วยให้ได้ผลการตรวจที่แม่นยำ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการวินิจฉัยและการรักษาโรคของผู้ป่วย.