ครุศาสตร์ ราชภัฏเลย สีอะไร

กว่าจะเป็นครูผู้สร้างคน: ส่องเฉดสีแห่งครุศาสตร์ ราชภัฏเลย

มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย นามที่ผูกพันกับการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน เป็นเสมือนเรือจ้างที่มุ่งมั่นส่งนักศึกษาข้ามฝั่งสู่ฝันอันยิ่งใหญ่ นั่นคือการเป็น “ครู” ผู้สร้างคน สร้างชาติ และพัฒนาสังคมอย่างแท้จริง แต่หากจะกล่าวถึง “ครุศาสตร์” ราชภัฏเลย สิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจสงสัยคือ “สี” ที่เป็นสัญลักษณ์ของคณะนั้นคืออะไร?

ความจริงแล้ว การระบุสีประจำคณะครุศาสตร์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏเลยนั้น อาจไม่ได้มีสีเฉพาะเจาะจงที่ชัดเจนเหมือนคณะอื่นๆ บางแห่งที่อาจมีสีประจำคณะที่ถูกกำหนดไว้อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม เราสามารถพิจารณา “สี” ในเชิงสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงครุศาสตร์ ราชภัฏเลยได้จากหลายมิติ ดังนี้

• สีแห่งความเป็นครู: โดยทั่วไป “สีฟ้า” มักถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นครู สื่อถึงความสงบ สุขุม รอบคอบ และความรู้ที่ลึกซึ้ง ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ครูพึงมีในการถ่ายทอดความรู้และอบรมสั่งสอนศิษย์
• สีแห่งการพัฒนาท้องถิ่น: มหาวิทยาลัยราชภัฏเลยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาชุมชนและท้องถิ่น ดังนั้น “สีเขียว” ซึ่งเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ ความเจริญงอกงาม และความยั่งยืน จึงสามารถสื่อถึงพันธกิจหลักของคณะครุศาสตร์ในการผลิตบัณฑิตครูที่สามารถนำความรู้ไปพัฒนาการศึกษาในท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• สีแห่งความหลากหลาย: คณะครุศาสตร์เป็นแหล่งรวมของนักศึกษาที่มีความสนใจและความถนัดที่หลากหลาย ดังนั้น “สีรุ้ง” จึงอาจเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความหลากหลายของศาสตร์ความรู้และความสามารถของนักศึกษาครุศาสตร์ ที่พร้อมจะเติบโตและเรียนรู้ในหลากหลายมิติ
• สีแห่งความภาคภูมิใจ: ที่สำคัญที่สุดคือ “สีแห่งความภาคภูมิใจ” ในการเป็นนักศึกษาครุศาสตร์ ราชภัฏเลย สีแห่งความมุ่งมั่นที่จะเป็นครูที่ดี สีแห่งความรับผิดชอบต่อสังคม และสีแห่งความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

ดังนั้น หากจะกล่าวถึง “สี” ของครุศาสตร์ ราชภัฏเลย อาจไม่ได้มีสีใดสีหนึ่งที่โดดเด่น แต่เป็น การผสมผสานของสีสันต่างๆ ที่สะท้อนถึงความเป็นครูที่ดี มีความรู้ความสามารถ มีจิตสำนึกในการพัฒนาท้องถิ่น และมีความภาคภูมิใจในความเป็นศิษย์เก่าราชภัฏเลย นั่นเอง

ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า “สี” คือ “คุณภาพ” ของบัณฑิตครูที่สำเร็จการศึกษาจากคณะครุศาสตร์ ราชภัฏเลย ที่พร้อมจะออกไปเป็นแสงสว่างนำทางให้กับเยาวชนของชาติ และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมไทยให้เจริญก้าวหน้าต่อไปอย่างยั่งยืน