ลาออกประกันสังคมภายในกี่วัน

ลาออกแล้วต้องรีบ! ไขข้อสงสัยเรื่องประกันสังคมและสิทธิประโยชน์หลังออกจากงาน

การตัดสินใจลาออกจากงานถือเป็นก้าวสำคัญในชีวิตการทำงานของใครหลายคน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลส่วนตัว การมองหาโอกาสใหม่ หรือความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงเส้นทางอาชีพ สิ่งสำคัญคือการเตรียมความพร้อมและทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่เราพึงได้รับหลังจากการลาออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของ “ประกันสังคม” ซึ่งเป็นสวัสดิการสำคัญที่คุ้มครองลูกจ้างในหลากหลายด้าน

บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องประกันสังคมหลังการลาออก โดยเน้นที่ ระยะเวลาในการดำเนินการและสิทธิประโยชน์ที่เราควรรู้ เพื่อให้คุณสามารถวางแผนและจัดการได้อย่างถูกต้อง ลดความกังวล และใช้ประโยชน์จากสิทธิที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่

ลาออกแล้ว ประกันสังคมยังคุ้มครองอยู่ไหม?

คำตอบคือ ใช่ แม้ว่าเราจะลาออกจากงานแล้ว ความคุ้มครองของประกันสังคมยังคงมีอยู่ แต่จะอยู่ในรูปแบบของการ “เป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจ” ตามมาตรา 39 ซึ่งเราจะต้องทำการสมัครเพื่อรักษาสถานะการเป็นผู้ประกันตนเอาไว้

แล้วต้องทำอย่างไร?

เมื่อลาออกจากงานแล้ว สิ่งที่ควรทำคือ:

1. ขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานกับกรมการจัดหางาน: ตามที่ระบุไว้ในข้อมูลข้างต้น การขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ออกจากงาน สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านระบบออนไลน์ของกรมการจัดหางาน (eservice.doe.go.th) การขึ้นทะเบียนนี้จะช่วยให้เราได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น เงินชดเชยกรณีว่างงาน และโอกาสในการเข้าร่วมโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะ

2. ตรวจสอบสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน: หลังจากขึ้นทะเบียนแล้ว เราสามารถตรวจสอบสิทธิประโยชน์ที่เราจะได้รับ เช่น จำนวนเงินชดเชยที่ได้รับ ระยะเวลาการจ่ายเงิน และเงื่อนไขต่างๆ โดยปกติแล้ว หากเราส่งเงินสมทบประกันสังคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนการว่างงาน เราจะมีสิทธิได้รับเงินชดเชยกรณีว่างงาน

3. สมัครเป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจ (มาตรา 39): หากเราต้องการรักษาสถานะการเป็นผู้ประกันตนเพื่อรับสิทธิประโยชน์อื่นๆ นอกเหนือจากกรณีว่างงาน เช่น ค่ารักษาพยาบาล เงินสงเคราะห์บุตร และเงินบำนาญชราภาพ เราจะต้องสมัครเป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจ (มาตรา 39) ภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่สิ้นสภาพจากการเป็นผู้ประกันตน (มาตรา 33) ซึ่งคือวันที่เราลาออกจากงาน การสมัครทำได้โดยยื่นแบบ สปส. 1-20 พร้อมสำเนาบัตรประชาชน ณ สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ

สรุปประเด็นสำคัญเรื่องระยะเวลา:

• ขึ้นทะเบียนผู้ว่างงาน: ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ออกจากงาน
• สมัครเป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจ (มาตรา 39): ภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่สิ้นสภาพจากการเป็นผู้ประกันตน (มาตรา 33)

ทำไมต้องรีบดำเนินการ?

การดำเนินการตามขั้นตอนและระยะเวลาที่กำหนดเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อ:

• รักษาสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับ: หากเราไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนด อาจทำให้เราพลาดโอกาสในการรับเงินชดเชยกรณีว่างงาน หรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ
• รักษาความต่อเนื่องของสิทธิประโยชน์: การสมัครเป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจ (มาตรา 39) จะช่วยให้เราได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของค่ารักษาพยาบาลและการสะสมเงินสมทบเพื่อรับเงินบำนาญชราภาพในอนาคต

คำแนะนำเพิ่มเติม:

• ตรวจสอบข้อมูลส่วนตัว: ก่อนการขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานหรือสมัครเป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจ ควรตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง
• สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์หรือขั้นตอนการดำเนินการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากสำนักงานประกันสังคม หรือเว็บไซต์ของกรมการจัดหางาน

การลาออกจากงานอาจเป็นช่วงเวลาที่ท้าทาย แต่การเตรียมความพร้อมและการทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จะช่วยให้เราสามารถจัดการได้อย่างราบรื่นและมั่นใจมากยิ่งขึ้น อย่าลืมรีบดำเนินการตามขั้นตอนและระยะเวลาที่กำหนด เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ที่เราพึงได้รับ และเริ่มต้นชีวิตการทำงานใหม่ได้อย่างเต็มที่