กันแดด SPF 100 มีจริงไหม

กันแดด SPF 100: จริงหรือแค่การตลาด?

หลายคนคงเคยเห็นครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงลิ่วถึง 100 วางขายตามท้องตลาด และอาจเกิดคำถามว่า SPF ระดับนี้มีอยู่จริงหรือไม่ และมีประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดได้ดีกว่า SPF 50 มากน้อยแค่ใด ข้อความที่มักพบเห็นบ่อยๆ คือ SPF 100 สามารถป้องกันรังสียูวีได้ถึง 99% ซึ่งสร้างความเข้าใจผิดๆ ให้กับผู้บริโภค

ความจริงแล้ว แม้จะมีครีมกันแดดที่มีค่า SPF 100 วางจำหน่าย แต่ประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดไม่ได้เพิ่มขึ้นตามตัวเลขแบบเส้นตรง SPF หรือ Sun Protection Factor เป็นตัวเลขที่บ่งบอกถึงระยะเวลาที่ผิวสามารถทนต่อรังสี UVB ก่อนที่จะเกิดอาการผิวไหม้แดง ตัวอย่างเช่น ถ้าผิวคุณปกติไหม้ภายใน 10 นาที การใช้ครีมกันแดด SPF 30 จะช่วยยืดระยะเวลาการป้องกันออกไปเป็น 300 นาที (10 x 30)

ในขณะที่ SPF 50 ป้องกัน UVB ได้ประมาณ 98% SPF 100 ป้องกัน UVB ได้ประมาณ 99% จะเห็นได้ว่าความแตกต่างในการป้องกัน UVB เพียง 1% เท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ และไม่ได้หมายความว่าเราจะสามารถอยู่กลางแดดได้นานขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อใช้ SPF 100 เทียบกับ SPF 50

นอกจากนี้ ค่า SPF ที่สูงไม่ได้บ่งบอกถึงการป้องกันรังสี UVA ซึ่งเป็นรังสีที่สามารถทะลุเข้าสู่ชั้นผิวหนังที่ลึกกว่า ก่อให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย จุดด่างดำ และมะเร็งผิวหนังได้ ดังนั้น การเลือกครีมกันแดดที่ระบุว่า “Broad Spectrum” ซึ่งหมายถึงป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB จึงมีความสำคัญมากกว่าการเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ เพียงอย่างเดียว

ที่สำคัญ การทาครีมกันแดดในปริมาณที่เพียงพอ และทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง หรือหลังจากว่ายน้ำ หรือเช็ดตัว เป็นสิ่งสำคัญกว่าการเลือกค่า SPF ที่สูงเกินความจำเป็น การเลือกใช้ SPF 30 หรือ 50 ที่เป็น Broad Spectrum ก็เพียงพอต่อการปกป้องผิวจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว

สรุปแล้ว การเลือกครีมกันแดด ไม่ควรยึดติดกับตัวเลข SPF สูงๆ เพียงอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาถึงประเภทของรังสีที่ป้องกัน ปริมาณที่ใช้ และความถี่ในการทาซ้ำ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการปกป้องผิวที่ดีที่สุด และหลีกเลี่ยงการถูกหลอกลวงจากกลยุทธ์ทางการตลาด