ทำยังไงให้หายตัวเหลือง
ภาวะตัวเหลืองในทารกมักหายเองได้โดยการขับสารบิลิรูบินส่วนเกินผ่านทางอุจจาระและปัสสาวะ หากระดับบิลิรูบินไม่สูงมาก การดูแลทั่วไป เช่น การให้นมแม่บ่อยๆ ก็เพียงพอ แต่ในบางกรณี แพทย์อาจใช้การส่องไฟด้วยแสงเฉพาะ เพื่อเร่งกระบวนการขับสารบิลิรูบิน ควรปรึกษาแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการอื่นร่วมด้วย
ตัวเหลืองในทารก: เข้าใจ ดูแล และเมื่อไหร่ที่ต้องพบแพทย์
ภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิดเป็นเรื่องที่พบได้ค่อนข้างบ่อย ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายท่านเกิดความกังวลใจ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงสาเหตุ วิธีการดูแลเบื้องต้น และสัญญาณที่ควรต้องปรึกษาแพทย์ เพื่อให้คุณสามารถดูแลลูกน้อยได้อย่างมั่นใจ
ทำไมทารกแรกเกิดถึงตัวเหลือง?
อาการตัวเหลืองเกิดจากระดับสาร “บิลิรูบิน” ในกระแสเลือดสูงเกินไป บิลิรูบินเป็นสารสีเหลืองที่เกิดจากการสลายตัวของเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ ในทารกแรกเกิด ตับยังทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้ไม่สามารถกำจัดบิลิรูบินได้อย่างมีประสิทธิภาพ บิลิรูบินจึงสะสมในร่างกาย ทำให้ผิวหนังและตาขาวมีสีเหลือง
ภาวะตัวเหลืองจะหายไปได้อย่างไร?
โดยส่วนใหญ่ ภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิดจะค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปเองได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ เมื่อตับของทารกเริ่มทำงานได้ดีขึ้น หลักการสำคัญคือการช่วยให้ร่างกายขับบิลิรูบินส่วนเกินออกไป ซึ่งสามารถทำได้โดย:
- ให้นมแม่อย่างสม่ำเสมอ: การให้นมแม่บ่อยๆ (อย่างน้อย 8-12 ครั้งต่อวัน) จะช่วยกระตุ้นการขับถ่ายของทารก ซึ่งจะช่วยกำจัดบิลิรูบินออกทางอุจจาระและปัสสาวะ หากคุณแม่มีน้ำนมน้อย ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านนมแม่เพื่อขอคำแนะนำ
- สังเกตสีอุจจาระและปัสสาวะ: อุจจาระของทารกที่ได้รับนมแม่อย่างเพียงพอควรมีสีเหลืองหรือเขียว และปัสสาวะควรมีสีเหลืองอ่อน การที่อุจจาระมีสีซีด หรือปัสสาวะมีสีเข้ม อาจเป็นสัญญาณว่าทารกได้รับนมไม่เพียงพอ
การรักษาทางการแพทย์: เมื่อไหร่ที่จำเป็น?
ในกรณีที่ระดับบิลิรูบินสูงเกินไป แพทย์อาจแนะนำการรักษาด้วย:
- การส่องไฟ (Phototherapy): เป็นการรักษาโดยใช้แสงสีฟ้าเฉพาะช่วงคลื่น ที่ช่วยเปลี่ยนบิลิรูบินให้อยู่ในรูปแบบที่ร่างกายสามารถขับออกทางปัสสาวะได้ง่ายขึ้น โดยทั่วไปทารกจะสวมผ้าปิดตาและเปลือยกาย (ยกเว้นผ้าอ้อม) เพื่อให้ผิวหนังสัมผัสแสงได้มากที่สุด
- การเปลี่ยนถ่ายเลือด (Exchange Transfusion): เป็นวิธีการรักษาที่ซับซ้อนกว่า ใช้ในกรณีที่ระดับบิลิรูบินสูงมากและไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยการส่องไฟ
เมื่อไหร่ที่ต้องปรึกษาแพทย์?
แม้ว่าภาวะตัวเหลืองส่วนใหญ่จะไม่เป็นอันตราย แต่การปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ หากคุณสังเกตเห็นอาการเหล่านี้:
- ผิวหนังและตาขาวของทารกมีสีเหลืองเข้มขึ้นเรื่อยๆ
- ทารกซึมลง ไม่ค่อยดูดนม หรือร้องไห้งอแงมากผิดปกติ
- อุจจาระของทารกมีสีซีด หรือปัสสาวะมีสีเข้ม
- ทารกมีไข้
ข้อควรจำ:
- อย่าตากแดดทารกเพื่อรักษาภาวะตัวเหลือง เนื่องจากอาจทำให้ผิวไหม้และเป็นอันตรายได้
- ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านนมแม่ หากคุณมีข้อสงสัยหรือกังวลใจเกี่ยวกับการให้นมลูก
- การตรวจติดตามระดับบิลิรูบินเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าภาวะตัวเหลืองของทารกได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ในการดูแลลูกน้อยที่มีภาวะตัวเหลืองได้อย่างมั่นใจ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเฉพาะบุคคล
#ผิวเหลือง#สุขภาพดี#อาหารเสริมข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต