ทำยังไงให้หายตัวเหลือง

0 การดู

ภาวะตัวเหลืองในทารกมักหายเองได้โดยการขับสารบิลิรูบินส่วนเกินผ่านทางอุจจาระและปัสสาวะ หากระดับบิลิรูบินไม่สูงมาก การดูแลทั่วไป เช่น การให้นมแม่บ่อยๆ ก็เพียงพอ แต่ในบางกรณี แพทย์อาจใช้การส่องไฟด้วยแสงเฉพาะ เพื่อเร่งกระบวนการขับสารบิลิรูบิน ควรปรึกษาแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการอื่นร่วมด้วย

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ตัวเหลืองในทารก: เข้าใจ ดูแล และเมื่อไหร่ที่ต้องพบแพทย์

ภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิดเป็นเรื่องที่พบได้ค่อนข้างบ่อย ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายท่านเกิดความกังวลใจ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงสาเหตุ วิธีการดูแลเบื้องต้น และสัญญาณที่ควรต้องปรึกษาแพทย์ เพื่อให้คุณสามารถดูแลลูกน้อยได้อย่างมั่นใจ

ทำไมทารกแรกเกิดถึงตัวเหลือง?

อาการตัวเหลืองเกิดจากระดับสาร “บิลิรูบิน” ในกระแสเลือดสูงเกินไป บิลิรูบินเป็นสารสีเหลืองที่เกิดจากการสลายตัวของเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ ในทารกแรกเกิด ตับยังทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้ไม่สามารถกำจัดบิลิรูบินได้อย่างมีประสิทธิภาพ บิลิรูบินจึงสะสมในร่างกาย ทำให้ผิวหนังและตาขาวมีสีเหลือง

ภาวะตัวเหลืองจะหายไปได้อย่างไร?

โดยส่วนใหญ่ ภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิดจะค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปเองได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ เมื่อตับของทารกเริ่มทำงานได้ดีขึ้น หลักการสำคัญคือการช่วยให้ร่างกายขับบิลิรูบินส่วนเกินออกไป ซึ่งสามารถทำได้โดย:

  • ให้นมแม่อย่างสม่ำเสมอ: การให้นมแม่บ่อยๆ (อย่างน้อย 8-12 ครั้งต่อวัน) จะช่วยกระตุ้นการขับถ่ายของทารก ซึ่งจะช่วยกำจัดบิลิรูบินออกทางอุจจาระและปัสสาวะ หากคุณแม่มีน้ำนมน้อย ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านนมแม่เพื่อขอคำแนะนำ
  • สังเกตสีอุจจาระและปัสสาวะ: อุจจาระของทารกที่ได้รับนมแม่อย่างเพียงพอควรมีสีเหลืองหรือเขียว และปัสสาวะควรมีสีเหลืองอ่อน การที่อุจจาระมีสีซีด หรือปัสสาวะมีสีเข้ม อาจเป็นสัญญาณว่าทารกได้รับนมไม่เพียงพอ

การรักษาทางการแพทย์: เมื่อไหร่ที่จำเป็น?

ในกรณีที่ระดับบิลิรูบินสูงเกินไป แพทย์อาจแนะนำการรักษาด้วย:

  • การส่องไฟ (Phototherapy): เป็นการรักษาโดยใช้แสงสีฟ้าเฉพาะช่วงคลื่น ที่ช่วยเปลี่ยนบิลิรูบินให้อยู่ในรูปแบบที่ร่างกายสามารถขับออกทางปัสสาวะได้ง่ายขึ้น โดยทั่วไปทารกจะสวมผ้าปิดตาและเปลือยกาย (ยกเว้นผ้าอ้อม) เพื่อให้ผิวหนังสัมผัสแสงได้มากที่สุด
  • การเปลี่ยนถ่ายเลือด (Exchange Transfusion): เป็นวิธีการรักษาที่ซับซ้อนกว่า ใช้ในกรณีที่ระดับบิลิรูบินสูงมากและไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยการส่องไฟ

เมื่อไหร่ที่ต้องปรึกษาแพทย์?

แม้ว่าภาวะตัวเหลืองส่วนใหญ่จะไม่เป็นอันตราย แต่การปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ หากคุณสังเกตเห็นอาการเหล่านี้:

  • ผิวหนังและตาขาวของทารกมีสีเหลืองเข้มขึ้นเรื่อยๆ
  • ทารกซึมลง ไม่ค่อยดูดนม หรือร้องไห้งอแงมากผิดปกติ
  • อุจจาระของทารกมีสีซีด หรือปัสสาวะมีสีเข้ม
  • ทารกมีไข้

ข้อควรจำ:

  • อย่าตากแดดทารกเพื่อรักษาภาวะตัวเหลือง เนื่องจากอาจทำให้ผิวไหม้และเป็นอันตรายได้
  • ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านนมแม่ หากคุณมีข้อสงสัยหรือกังวลใจเกี่ยวกับการให้นมลูก
  • การตรวจติดตามระดับบิลิรูบินเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าภาวะตัวเหลืองของทารกได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ในการดูแลลูกน้อยที่มีภาวะตัวเหลืองได้อย่างมั่นใจ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเฉพาะบุคคล